คงไม่มีใครไม่เคยท้องผูกกันใช่ไหมคะ ซึ่งเวลาท้องผูกแล้วนั้นแต่ละคนก็คงจะมีวิธีรักษาที่แตกต่างกันไป ทานน้ำเยอะๆ บ้าง ทานกาแฟบ้าง ทานยาบ้าง แต่จะมีสักกี่คนที่ทราบว่า การทานผลไม้คู่ครัวอย่างผลไม้ทั้ง 5 ประเภทนี้ เป็นวิธีที่แสนง่ายที่จะช่วยลดอาการท้องผูกและยังได้คุณประโยชน์ไปพร้อมๆ กัน ส่วนจะมีผลไม้อะไร เราลองมาดูกันได้เลย
ส้มเป็นผลไม้ที่เรารู้จักและเคยทานกันมาตั้งแต่เกิดเลยก็ว่าได้ นอกจากประโยชน์จากวิตามินซีที่ช่วยบำรุงร่างกายและผิวพรรณแล้ว กากใยจากส้มนั้นเราไม่ควรลอกทิ้งเด็ดขาด เพราะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยทำให้กระเพาะอาหารและลำไส้เคลื่อนตัวได้ดี ระบบย่อยสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดอาการท้องอืดจากอาหารไม่ย่อย และกากใยเหล่านี้ยังช่วยเรื่องระบบขับถ่ายทำให้ท้องไม้ผูกอีกด้วย ผิวพรรณดีแล้วยังทานง่ายถ่ายคล่องแบบนี้ อย่าลืมหาส้มมาทานกันเป็นประจำนะครับ
มะละกอเป็นผลไม้ที่ให้วิตามินและแร่ธาตุกับร่างกายเป็นอย่างมาก แถมยังเลือกทานได้ทั้งตอนดิบ คือใช้ประกอบอาหาร และทานได้ในช่วงตอนสุก ซึ่งจะทานง่าย นอกจากสรรพคุณของมะละกอที่ช่วยในการขับปัสสาวะ ช่วยรักษาอาการลักปิดลักเปิดแล้ว มะละกอยังเป็นยาระบายอ่อนๆ สำหรับผู้ที่ขับถ่ายไม่ค่อยสะดวกอีกด้วย ลองนำมะละกอสุกไปแช่เย็น จะช่วยให้ทานง่ายและมีรสชาติดีขึ้น แต่แนะนำว่าไม่ควรทานบ่อยและติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะอาจจะทำให้ผิวกายคุณดูเหลืองขึ้นได้
กล้วยเป็นผลไม้ที่หาทานง่ายแต่อุดมไปด้วยประโยชน์และสารอาหารอย่างมากมาย ข้อดีที่เห็นได้ชัดเจนเลยคือสารโปรแตสเซียมที่อุดมอยู่ในกล้วย บวกกับปริมาณเกลือที่ต่ำ ทำให้มีส่วนช่วยในเรื่องความดันโลหิตและป้องกันเส้นเลือดฝอยแตก จนได้รับการยอมรับจาก อย. ของประเทศอเมริกา นอกจากนั้น กากใยและสารอาหารในกล้วยยังช่วยทำให้การขับถ่ายเป็นปกติ ลดปัญหาอาการท้องผูกแบบที่คุณไม่ต้องพึ่งยาถ่ายใดๆ ทั้งยังช่วยปรับสมดุลการขับถ่ายให้เป็นปกติได้อีกด้วย
มะม่วงเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์เช่นกัน ตั้งแต่วิตามินซีสูง มีสารต้านอนุมูลอิสระ และยังมีวิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตา มีเบต้าแครอทีน เป็นต้น นอกจากนี้ ในแง่ของอาการท้องผูกนั้น มะม่วงสุกจะช่วยทำให้อุจจาระอ่อนนุ่มยิ่งขึ้น ลดอาการเจ็บจากการขับถ่ายของผู้ที่มีอาการท้องผูก ทำให้ถ่ายสะดวกขึ้น แต่มะม่วงสุกจะมีน้ำตาลค่อนข้างสูง ดังนั้นจึงควรทานในปริมาณที่พอดีเพื่อป้องการปัญหาน้ำหนักที่อาจจะเพิ่มขึ้นได้
สารแพคตินที่มีอยู่ในแอปเปิ้ล มีส่วนช่วยในการเพิ่มกากใยให้กับทางเดินอาหาร ทำให้อวัยวะต่างๆ ในระบบทางเดินอาหารทำงานได้เป็นปกติ ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพในการขับถ่ายให้เป็นปกติ อีกทั้งยังช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ได้อีกด้วย ประโยชน์ที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างคือ ป้องกันไม่ให้ร่างกายจับดูดซึมคลอเรสเตอรอล ทำให้คลอเรสเตอรอลไม่สูง และเป็นการป้องกันโรคความดันโลหิตไปในตัว
ขอบคุณสาระดีๆ จาก ซาโลร่า
