ข่าวนี้ถือเป็นเครื่องเตือนใจอีกหนึ่งข่าวที่ทางโดดเด่นอยากขอนำเสนอ กับหลายๆคนที่เป็น สังคมก้มหน้า เป็นมนุษย์โซเชี่ยล ต้องก้มหน้าก้มตา อัพเดตสถาณการณ์ตลอดเวลาหรือต้องแชทตลอดเวลา โดยเฉพาะตอนขับรถ ปกติแล้วขณะขับรถแค่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพูดคุยไป สายตามองถนนไปก็ยังเกิดอุบัติตเหตุ แจ่เหตุการณ์นี้ เล่นก้มหน้าแชทขณะที่ตัวเองขับรถอยู่
ขอบคุณที่มา : Kapook
เรื่องนี้เกิดขึ้น เมื่อหญิงวัย 34 ปี แชทเฟซบุ๊คเพลินขณะขับรถ จนถูกชนท้ายรถเสียหลักเหวี่ยงชนข้างทาง คร่าชีวิตลูกและหลานของตน โดยเว็บไซต์เดลี่เมล รายงานในวันที่ 5 มีนาคม 2558 ว่า นางคาริ เจ มิลเบิร์ก หญิงชาวอเมริกัน วัย 34 ปี ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมจากการขับรถด้วยความประมาท เป็นเหตุให้มีเด็กเสียชีวิตถึง 3 ราย ได้แก่ ลูกสาววัย 11 ปีของเธอ และหลานสาววัย 5 ขวบอีก 2 คนเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2556 เมื่อเวลาประมาณ 15.40 น. บนถนนทางหลวงหมายเลย 35 ในเขตเมืองเพรสคอร์ต รัฐวิสคอนซิน
โดยนางมิลเบิร์กเป็นผู้ขับรถกำลังพาหลานสาวทั้งสองไปส่งที่บ้าน โดยลูกสาวของเธอนั่งเบาะหน้าข้างคนขับ ส่วนลูกชายและหลานสาวทั้งคู่นั่งอยู่ด้านหลัง แต่เกิดเหตุถูกรถบรรทุกชนท้าย ทำให้รถเสียหลักหมุนคว้างก่อนเหวี่ยงไปชนกับราวกั้นทาง ลูกสาวที่นั่งเบาะหน้าเสียชีวิตทันที ส่วนเด็ก ๆ ที่เบาะหลังได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ลูกชายเธออาการปลอดภัย ขณะที่หลานสาวทั้ง 2 คนเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ด้านนางมิลเบิร์กที่แม้จะคาดเข็มขัดนิรภัยก็ถูกเหวี่ยงออกจากรถตกไปบนคันดินข้างทางหากจุดเกิดเหตุหลายเมตร ในโทรศัพท์มือถือของเธอพบว่ามีการแชทเฟซบุ๊กอย่างต่อเนื่องถึง 2 นาที ก่อนที่จะเกิดเหตุ คาดว่าเป็นสาเหตุหลักที่แย่งสมาธินางมิลเบิร์กไปจากการควบคุมรถ จนเกิดเหตุสลดดังกล่าว
ฝ่ายผู้ขับรถบรรทุกและผู้โดยสารมาอีก 2 ราย ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างไร แต่ผลการตรวจร่างกายผู้ขับพบมีการใช้ยานอนหลับในช่วงที่เกิดอุบัติเหตุด้วย นอกจากนี้ยังพบว่าไม่มีใบขับขี่ และถูกดำเนินการตามกฎหมายแล้ว
ทั้งนี้นางมิลเบิร์กที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ได้รับการรักษาพยาบาลตลอด 1 ปีจนอาการดีขึ้น และได้ถูกแจ้งข้อหาฆาตกรรมจากการขับรถประมาทเลินเล่อดังกล่าว
