นำเสนอข่าวโดย โดดเด่นดอทคอม
ภาพ กระปุก , Liker
7 สถานที่หลอกหลอนและชวนพิศวงจากทั่วโลก ที่ที่คนชอบความระทึกขวัญและท้าทายความกล้าคงอยากจะได้ไปเยี่ยมชมไม่น้อย
หากคุณไม่ต้องการเสพความรื่นรมย์สบายตาเหมือนคนอื่น ๆ เราจะพาคุณไปเที่ยวสถานที่พิศวงชวนขนลุกทั้งจากฝีมือมนุษย์และจากฝีมือธรรมชาติ ที่นำมาฝากจากเว็บไซต์ Liker กัน พร้อมแล้วก็ออกเดินทางกันเลย
1. ถ้ำสุสานคุดคู้ของชนเผ่าอิบาลอยด์ ประเทศฟิลิปปินส์
สุสานโบราณของชาวพื้นเมืองเผ่าอิบาลอยด์ ในจังหวัดเบงเกต ของฟิลิปปินส์ ไม่เหมือนกับสุสานทั่ว ๆ ไป ที่นี่ไม่มีการฝัง ไม่ได้เป็นป่าที่เต็มไปด้วยหลุมศพ
แต่มันเป็นสุสานที่อยู่ในถ้ำซึ่งมีแต่กระดูกเต็มไปหมด ทั้งหัวกะโหลกที่ถูกจัดเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ กระดูกที่ถูกวางกองพะเนินไว้ที่พื้นจนจินตนาการไม่ออกมาถ้าจับมาประกอบกันจะได้สักกี่ร่าง
และซากมัมมี่ที่อยู่ในท่านั่งชันเข่าคุดคู้อยู่ในโลงเล็ก ๆ ขุดขึ้นจากลำต้นของไม้ใหญ่ สภาพมัมมี่แต่ละตัวสมบูรณ์อย่างน่าตกใจ
คาดว่าคงเป็นเพราะร่างของผู้ตายถูกนำมาเข้ากระบวนการทำมัมมี่ทันทีที่เสียชีวิต บางร่างดูเหมือนแค่กำลังซบหน้ากับเข่านอนกำลังนอนหลับใหล
และพร้อมจะตื่นมาลุกขึ้นเดินได้ทุกเมื่อ ระวังออกจากถ้ำแล้วจะมีใครเดินตามหลังมาล่ะ
2. ป่าฆ่าตัวตาย ประเทศญี่ปุ่น
“อาโอกิงะฮาระ” เป็นป่าที่อยู่ตรงเชิงเขาด้านตะวันตกเฉียงเหนือของฟูจิซัง ภูเขาที่โด่งดังที่สุดของญี่ปุ่น แต่แทนที่มันจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันน่าอภิรมย์ ป่าแห่งนี้กลับมีแต่กลิ่นอายของความตาย
เมื่อมันกลายเป็นสถานที่ฆ่าตัวตายยอดฮิตของชาวญี่ปุ่น ซากศพที่กลายเป็นโครงกระดูกนอนตายคาพื้นมีให้พบเห็นได้อย่างชัดเจน
บางซากก็ไม่ทราบแน่ชัดว่าตั้งใจเข้าไปจบชีวิตตนเองที่นั่นหรือเดินหลงหาทางออกจากป่าไม่พบกันแน่ แต่ในความน่ากลัวก็ยังมีคนที่คอยหากินกับศพ ว่ากันว่ามีพวกยากูซ่าคอยว่าจ้างให้คนโฮมเลสเข้าไปในป่าเพื่อลักทรัพย์สิ่งของจากศพมาขายด้วย
3.สุสานตุ๊กตา ประเทศเม็กซิโก
เป็นเวลากว่า 50 ปี ที่ชายแก่ดอน จูเลียน ซานตานา บาร์เรรา เที่ยวนำตุ๊กตาเก่า ๆ ที่ถูกทิ้ง ทั้งที่มีสภาพสมบูรณ์แขนขาครบ ตลอดจนที่แขนขาหักไม่สมประกอบ
หรือแม้มาแค่ชิ้นส่วนมีแต่ลำตัวหรือมีแค่หัวอย่างเดียวมาทั้งเสียบทั้งแขวนไว้ตามต้นไม้ บนเกาะที่ถูกโอบล้อมด้วยคลองโซชิมิลโก ใกล้กรุงเม็กซิโกซิตี้ ดูแล้วคล้ายพวกมันถูกจับมาบูชายัญ
แต่แท้จริงแล้วเชื่อกันว่าเหตุที่ดอนทำเช่นนั้นก็เพื่อปลอบประโลมวิญญาณของเด็กหญิงผู้หนึ่งที่เขาพบร่างเธอจมน้ำตายในคลอง
ทว่าในที่สุดจุดจบของชายแก่ก็ไม่ต่างไปจากเด็กหญิงน้อยคนนั้น เมื่อมีคนพบร่างเขาคว่ำหน้าจมน้ำตายในสภาพเดียวกัน
นับแต่นั้นก็ไม่มีใครไปยุ่งกับตุ๊กตาเหล่านั้นอีกเลย ปล่อยให้มันเป็นเกาะสุสานตุ๊กตาในบรรยากาศสุดหลอน แต่กระนั้นก็ยังเรียกนักท่องเที่ยวให้แวะมาเก็บเกี่ยวความความสยองจากสุสานตุ๊กตาไร้ชีวิตแห่งนี้ได้
ผู้ที่เคยไปเยี่ยมชมบอกว่าอดขนลุกไม่ได้เมื่อรู้สึกเหมือนโดนสายตานับร้อยจากตุ๊กตาเหล่านี้จ้องมองอยู่
4. ประตูสู่นรก ประเทศเติร์กเมนิสถาน
เห็นภาพแล้วชวนให้คิดว่าหากพลัดตกลงไปคงไปโผล่ที่นรกได้จริง ๆ สถานที่นี้คือหลุมก๊าซธรรมชาติเดอร์เวเซ ถูกพบอยู่กลางทะเลทรายเดอร์เวเซ ประเทศเติร์กเมนิสถาน เมื่อปี 1971 ปากหลุมกว้าง 230 ฟุต
นักวิจัยพยายามตั้งเครื่องมือเพื่อขุดเจาะเพื่อเก็บก๊าซธรรมชาติมาใช้ ทว่าแท่นขุดเจาะก็ทรุดหายลงไปในหลุม และด้วยความหวาดเกรงว่าหากปล่อยเอาไว้ ก๊าซมีเทนอันเป็นพิษจากหลุมนี้อาจจะกระจายไปทั่ว
จึงตัดสินใจจุดไฟลงในบ่อ คิดว่าก๊าซที่มีคงทำให้เพลิงเผาไหม้ได้หมดในเวลาไม่นานนัก แต่ทว่าตอนนี้ล่วงมากว่า 40 ปีแล้ว เพลิงในบ่อนั้นก็ยังไม่สงบลงเลย
5.รีสอร์ตยูเอฟโอร้าง ประเทศไต้หวัน
สถานที่อันดูคล้ายสุสานยูเอฟโอ ครั้งหนึ่งมันเกือบจะได้กลายเป็นรีสอร์ตสไตล์อวกาศสุดชิคในเมืองซางจีของไต้หวัน เป็นสถานที่ตากอากาศที่คงน่าไปเที่ยวไม่น้อย
หากผู้ลงทุนไม่เผชิญกับภาวะเงินฝืดเคืองเมื่อปีช่วงปี 1970’s ไปเสียก่อน ทำให้ต้องตัดสินใจพับโครงการทิ้งร้างไปนับแต่นั้นเป็นต้นมาโดยยังไม่เคยเปิดให้บริการเลย
แต่มันก็ได้กลายเป็นสถานที่ที่คนชอบความแปลกชอบเข้าไปเก็บภาพและเที่ยวชมอาคารรูปทรงแปลกตาในบรรยากาศเงียบสงัดชวนหลอน แต่ก็น่าเสียดายเพราะมันได้ถูกรื้อถอนไปหมดแล้วเมื่อปี 2010 ที่ผ่านมา
6.ฟาร์มศพ ที่เทนเนสซี สหรัฐฯ
“ฟาร์มศพ” แห่งนี้เพาะปลูกไว้แต่ร่างที่ไร้วิญญาณ มันอยู่ในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยเทนเนสซี สหรัฐฯ และแม้จะเป็นสถานที่ซึ่งให้บรรยากาศน่าสยดสยองชวนอ้วก
แต่จุดประสงค์ของที่นี่ล้วนเกิดขึ้นด้วยความปรารถนาดี เพราะมีไว้ใช้ศึกษาสภาพการเน่าเปื่อยของศพที่เสียชีวิตในลักษณะต่าง ๆ อย่างเหมือนจริงที่สุด เพื่อนำข้อมูลไปจำลองเปรียบเทียบในการชันสูตรศพของผู้เป็นเหยื่อการฆาตกรรมนั่นเอง
ร่างทั้งหลายที่กำลังเน่าเปื่อยไปจนถึงแห้งกรังจนเหลือแต่ซี่โครงในฟาร์มศพแห่งนี้
ล้วนเป็นร่างของผู้เต็มใจบริจาคกายที่ไร้ลมหายใจของตนให้เป็นประโยชน์แก่คนที่ต้องตายด้วยความชั่วร้ายจากเหล่าฆาตกร นับเป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ
7.เมืองร้างปริเปียต ประเทศยูเครน ภาพสะท้อนวิบัติแห่งเชอร์โนบิล
เมื่อครั้งรัสเซียยังเป็นสหาภพโซเวียต ปริเปียตเคยเป็นชุมชนที่คึกคัก มีประชากรอยู่อาศัยมากถึง 50,000 ราย แต่เมื่อโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลเกิดระเบิดขึ้นอย่างไม่คาดฝันเมื่อเดือนเมษายน 1986
ปริเปียตก็กลายเป็นเมืองร้างไปในบัดดล เมื่อผู้คนพร้อมใจกันอพยพหนีกัมมันตรังสีออกจากเมืองอย่างเร่งรีบ ทิ้งทั้งบ้านเรือน โรงเรียน โรงพยาบาล สวนสนุก สวนสาธารณะ ฯลฯ ไว้เบื้องหลัง
ข้าวของที่ผู้คนเคยหยิบจับมาใช้ถูกวางทิ้งไว้ในสภาพเดิม แต่เก่าชำรุดทรุดโทรมมีฝุ่นจับหนา ทำให้พอมองเห็นร่องรอยราง ๆ ว่าครั้งหนึ่งที่แห่งนี้เคยมีชีวิตชีวาเพียงใด
ทว่าตอนนี้ก็ได้เปลี่ยนสภาพเปลี่ยนไปราวฟ้ากับเหวเสียแล้ว ดูแล้วช่างชวนขนหัวลุกดีจริง ๆ และใครที่ชอบท้าความหลอน ตอนนี้ยูเครนก็ได้เปิดเมืองปริเปียตให้ผู้ที่สนใจเข้ามาเที่ยวชมได้แล้วด้วยนะ..