เว็บไซต์เซี่ยงไฮ้อิสต์เผยแพร่เรื่องราวความมุ่งมั่นของ “เฉิน เส็งกวน” หนุ่มจีนผู้ทุพพลภาพจากเมืองจ้านเจียง มณฑลกวางตุ้ง ที่ใช้เวลาถึงครึ่งปีตามหาลูกชายวัย 2 ขวบครึ่งที่หายตัวไปเมื่อต้นปี ทั้งที่ตลอดชีวิตที่ผ่านมา เขาไม่เคยเดินทางออกนอกเมืองมาก่อน แต่ก็ยังดั้นด้นข้ามไปถึงเมืองกว่างโจว ด้วยความหวังว่าจะมีใครพบเห็นลูกน้อยของเขา
เฉินมีบ้านอยู่ในเทศมณฑลซุยซี แต่ทำงานอยู่ในโรงงานผลิตสายต่อกระเพาะปัสสาวะในเขตหม่าจาง โดยใช้เวลาทำงาน 6 วันต่อสัปดาห์ มีรายได้ 1,000-2,000 หยวน (ราว 5,592-11,184 บาท) ต่อเดือน แต่จะส่งเงินส่วนมากกลับไปที่บ้าน เหลือไว้ให้ตัวเองใช้เพียง 300 หยวน (ราว 1,677 บาท) เท่านั้น และในขณะที่เฉินออกไปทำงาน พ่อแม่ของเขาจะช่วยเลี้ยงดูลูกชายให้เสมอ
วันที่เกิดเหตุ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา ลูกชายของเฉินถูกทิ้งให้อยู่กับญาติ เนื่องจากปู่กับย่าต้องออกไปทำธุระ แต่เมื่อกลับมาแล้วปรากฏว่าลูกชายหายไป ทำให้ทุกคน รวมทั้งเพื่อนบ้านต้องออกตามหากันวุ่นวาย ก่อนจะโทร.แจ้งตำรวจ
แต่การตามหาเด็กเป็นไปอย่างลำบากมาก เพราะในหมู่บ้านไม่มีกล้องวงจรปิดติดตั้งไว้ อย่างไรก็ตาม เฉินสงสัยว่าลูกชายของเขาอาจจะถูกแก๊งค้าเด็กลักพาตัวไป
ด้านอดีตภรรยาของเฉินรีบกลับมาหาครอบครัวทันทีที่ทราบเรื่อง ส่วนตัวเฉินเองยอมทิ้งงานแล้วออกไปตามหาลูก แม้ร่างกายจะพิการ ต้องไปไหนมาไหนด้วยวิธีคลาน แต่เฉินก็ไม่เคยยอมแพ้
ใครต่อใครจะเห็นเฉินในสภาพเช่นนั้น คือใช้มือกับเท้าคลานไปตามพื้น พร้อมกันกับที่พกรูป ใบประกาศหาลูกน้อยติดตัวเอาไว้ และน้ำดื่มอีก 1 ขวด
“มาเมืองกว่างโจวแล้วคนเยอะกว่า สื่อมวลชนอะไรก็เยอะกว่า ผมหวังว่าพวกเขาจะช่วยกระจายข่าวแล้วตามหาลูกผมจนเจอได้” เฉินกล่าว
ก่อนทิ้งท้ายว่า แม้จะต้องไปๆกลับๆอยู่ระหว่างเมืองกว่างโจวกับจ้านเจียงเช่นนี้ แต่จะไม่ยอมแพ้เด็ดขาดจนกว่าจะตามหาลูกเจอ
