เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ที่บ้านเลขที่ 5/4 ม.1 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการจัดงานศพคุณแม่จินดา หาญสกุล อายุ 53 ปี ที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง โดยก่อนหน้านี้นางจินดา ได้รับการรักษาตัวอยู่เป็นเวลา 18 ปี กระทั่งปลายเดือนพ.ย.58 อาการทรุกหนัก ถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลมอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แต่อาการไม่ดีขึ้น จนหมอระบุว่าเป็นมะเร็งขั้นสุดท้าย และนางจินดารู้ตัวเองว่าอยู่ได้อีกไม่นาน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ต่อมานางจินดาบอกลูกสาวคือ น.ส.ปะริดา หาญสกุล ที่เตรียมจะเข้าพิธีมงคลสมรสในวันที่ 21 ม.ค.59 นี้ว่า ถ้าแต่งงานวันที่ 21 ม.ค. แม่คงอยู่ได้ไม่ถึงวันนั้นแน่ ขอให้ลูกสาวหาฤกษ์แต่งงานให้เร็วขึ้น เพื่อจะได้ร่วมงาน ทางลูกสาวและแฟนหนุ่ม จึงเร่งกำหนดงานมงคลสมรสให้เร็วขึ้น โดยได้ฤกษ์แต่งเป็นวันที่ 11 ม.ค. ที่ผ่านมา ทำตามที่นางจินดาสั่งในสิ่งที่อยากให้สมหวังและอยากเห็น และยังกำชับให้จัดงานให้ยิ่งใหญ่มีดนตรีรำวงด้วย เพราะเป็นคนชอบรำวง
กระทั่งวันที่ 6 ม.ค. ลูกสาวได้พานางจินดามาจากรพ.มอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา กลับมารักษาต่อที่โรงพยาบาลท่าศาลา เพื่อจะได้ร่วมงานวิวาห์ของลูกสาว จนถึงวันที่ 10 ม.ค. ลูกพากลับบ้าน เพื่อรวมพิธีแต่งงานของลูกในวันที่ 11 ม.ค. และนางจินดารู้สึกตัวด้วยความตื่นเต้น เพราะหวังอยากเห็นลูกสาวเป็นฝั่งเป็นฝา จึงบอกให้คนที่ดูแลจัดการเตรียมตัว แต่งหน้าใส่ชุดสวยๆ ที่ชอบให้ กระทั่งเช้าวันที่ 11 ม.ค. ก็เริ่มพิธีมงคลสมรสของลูกสาว
ซึ่งการแต่งงานจัดขึ้นตามความต้องการของนางจินดาทุกประการ จนกระทั่งเวลา 22.00 น. วันเดียวกันนางจินดาก็หัวใจหยุดเต้น ลูกหลานนำส่งโรงพยาบาลท่าศาลา ทางแพทย์พยาบาลพยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่ จนกระทั่งช่วงเช้ามืดของวันที่ 12 ม.ค. นางจินดา ก็เสียชีวิตอย่างสงบ หลังจากสมหวังอยากเห็นลูกสาวแต่งงานตอบแทนบุญคุณตามประเพณีไทย และความหวังบรรลุผลในที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จจากงานแต่งงานของ น.ส.ปะริดา แล้ว ที่บ้านดังกล่าวก็จัดงานบำเพ็ญกุศลศพนางจินดาและในวันนี้ เป็นวันสุดท้าย โดยญาตินำศพของนางจินดาไปทำฌาปนกิจตามประเพณีทางศาสนาแล้ว ซึ่งการจัดงานแต่งของน.ส.ปะริดา นั้นได้รับความชื่นชมจากชาวบ้านอย่างกว้างขวาง ที่ตอนแทนพระคุณแม่ตามที่แม่ต้องการทุกอย่าง