ใช้ “บท” สู้ “คู่จิ้น” กฤษณ์ ศุกระมงคล ยอมรับ ไม่สามารถหาดาราดังมาเล่น “สุดแค้นฯ” เลยขอทดแทนด้วยบทที่ดีที่สุด รับเสียงวิจารณ์เรื่องหน้าตานักแสดงตอนโตไม่เหมือนตอนเด็ก แต่ทั้่งหมดเป็นเพราะเลือก “ฝีมือ” ไม่ใช่ “หน้าตา”
กฤษณ์ ศุกระมงคล ผู้กำกับและผู้จัดละครเรื่อง “สุดแค้นแสนรัก” ให้สัมภาษณ์ว่า ตอนนี้รู้สึกหายเหนื่อย หลังจากละครออกมาอย่างที่ตั้งใจไว้และมีกระแสตอบรับดี โดยเรื่องนี้ใช้เวลาทำงานทั้งหมดถึง 1 ปี 5 เดือน เพราะนอกจากต้องรอบทยังใช้นักแสดงจำนวนมากทำให้การเรตติ้งและการขอคิวนักแสดงค่อนข้างยาก โดยเฉพาะในส่วนคนที่มารับบทเป็นรุ่นพ่อแม่ที่ โดนัท-มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล, มอส-ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ ฯลฯ มารับบท เนื่องจากคนเหล่านี้ต้องเล่นจนถึงรุ่นลูกโตตนเลยให้บทโทรทัศน์นักแสดงไปอ่านก่อนว่าพอใจที่จะเล่นหรือไม่จากนั้นจึงคัดเลือกนักแสดงรุ่นลูกตอนโตที่สุดท้ายได้ เพื่อน-คณิน ชอบประดิถ, ชิปปี้-ศิรินทร์ ปรีดียานนท์, อาโป-ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์ ฯลฯ แสดง ก่อนจะไปคัดเลือกรุ่นลูกตอนเด็ก
กฤษณ์ยังกล่าวด้วยว่า ตนยอมรับเรื่องที่หลายคนวิจารณ์ว่ารุ่นลูกตอนเด็กกับตอนโตหน้าตาไม่เหมือนกัน นั่นเพราะคัดเลือกจากการแสดงเป็นหลักไม่ได้คัดเรื่องหน้าตา เหตุจากบางคนหน้าตาคล้ายกันแต่คาแร็กเตอร์ไม่เหมาะสมกับบท และหากจะใช้ดาราชื่อดังมาร่วมงานด้วยก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากบทของรุ่นลูกตอนโตมีเพียงแค่ 8-9 ตอนเท่านั้น ส่วนที่มีคนพูดว่ารุ่นลูกไม่สนุกเท่ารุ่นพ่อแม่นั้นอยากให้รอชมต่อไปด้วยเนื้อหาจะสนุกเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งน่าจะทดแทนการไม่มีพระเอก-นางเอกชื่อดังมาร่วมแสดงได้
“ยุคนี้เป็นยุคของนางเอก-พระเอกดังๆ คู่จิ้น แต่เรื่องนี้เราเอาบทที่ดีที่สุดน่าจะทดแทนการไม่มีคู่จิ้น ไม่มีพระเอก นางเอกดังๆ ได้ “สุดแค้นแสนรัก” เป็นม้านอกสายตาพอสมควร แต่อาจด้วยความที่นานๆ ทีช่อง 3 จะมีละครอย่างนี้ บวกกับเนื้อเรื่องเอาอยู่คาแร็กเตอร์เอาอยู่ นักแสดงเอาอยู่เลยฟีดแบ๊กดีเป็นจุดที่เราคิดถูกซึ่งการที่เอาเด็กใหม่ๆ มาเล่นบทมันก็ส่งพอสมควรที่พวกเขาจะไปเล่นเรื่องอื่นได้สบายๆ” กฤษณ์กล่าวในที่สุด