เว็บไซต์หนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์ส รายงานในสัปดาห์นี้ว่า อัยการในเขตถงโจว กรุงปักกิ่ง กำลังจะเริ่มสอบสวนคดีแปลกคดีหนึ่ง นั่นคือสุนัขทิเบตมาสทิฟฟ์ตายคามีดหมอศัลยกรรม และเจ้าของฟ้องเรียกค่าเสียหาย!
นายหยู เจ้าของฟาร์มสุนัขในเขตชุนอี้ ยื่นฟ้องจำเลยแซ่หลี่ สัตวแพทย์โรงพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง โดยในคำฟ้องระบุว่า สุนัขของเขาหัวใจหยุดเต้นเพราะยาสลบระหว่างผ่าตัด และตายเมื่อ 9 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา พร้อมเรียกค่าชดเชย 8.8 แสนหยวน (ประมาณ 4.2 ล้านบาท) ตามราคาที่ซื้อมาจากฟาร์มเพาะเลี้ยงอีกแห่งเมื่อมีนาคมปีที่แล้ว
เจ้าของกล่าวว่า สุนัขตัวนี้อายุเกือบ 2 ปี อยู่ในวัยผสมพันธุ์ได้ แต่หนังตรงหน้าผากของมันย่นยับมาก จึงตัดสินใจพาไปผ่าตัดศัลยกรรมยกกระชับหนัง เพื่อจะทำให้ขนที่หัวด้านหลังดูยาวขึ้นด็วย ทั้งหมดนี้ก็เพื่อทำให้มันเป็นสุนัขสวยงาม จูงใจเจ้าของสุนัขเพศเมียเลือกไปเป็นพ่อพันธุ์ อันหมายถึงกำไรที่มากขึ้น
นายหยูเผยด้วยว่า เป็นครั้งแรกที่ส่งสุนัขไปผ่าตัดศัลยกรรมพลาสติฏ ที่ผ่านมาเคยแต่พาไปผ่าตัดทำให้หูตั้งขึ้น
การจ่ายเงินเพื่อการเป็นเจ้าของหรือกิจกรรมเกี่ยว เนื่องกับสุนัขมาสทิฟฟ์ทิเบต เป็นข่าวฮือฮาหลายครั้งในจีน และถูกมองเป็นสัญลักษณ์แสดงฐานะในสังคม มีข่าวการขายสุนัขมาสทิฟฟ์ปีที่แล้ว ตัวหนึ่ง 10 ล้านหยวน อีกตัวราคา 20 ล้านหยวน (48 ล้าน-เกือบร้อยล้านบาท)
กลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสัตว์ในจีนไม่เห็นด้วยกับ การนำสุนัขไปผ่าตัดศัลยกรรมพลาสติก เพราะนอกจากเสี่ยงติดเชื้อแล้ว ยังไม่เป็นธรรมต่อเพื่อนร่วมโลกที่พูดไม่ได้ และการใช้ยาสลบจะต้องเกิดขึ้นโดยความยินยอมของเจ้าของ โดยเฉพาะสุนัขมาสทิฟฟ์นี้ การเลี้ยงในพื้นที่ต่ำอย่างกรุงปักกิ่งก็ไม่เหมาะสมอยู่แล้ว เพราะเป็นสุนัขบนทุ่งหญ้าสูง แต่กลับนำมาเลี้ยงเพื่อแสวงหากำไร แถมทำกับมันเหมือนเป็นของเล่นเช่นนี้
ที่มา www.komchadluek.net
