ความคืบหน้ากรณีนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พร้อมด้วย น.ส.ประภาวรรณ ใจกล้า หรือ น้องก้อย อายุ 19 ปี นิสิตปีที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.)ให้ดำเนินคดีกับนางมณตา หยกรัตนกาญ หรือนางไก่ อดีตนายจ้างหญิง ฐานแจ้งความเท็จ และขอให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีนายจ้างหญิงแจ้งความดำเนินคดีกับนายชูเกียรติ ใจกล้า นางประภาพร ทองเฟื้อง บิดาและมารดาของน.ส.ประภาวรรณ รวมถึง น.ส.ประภาวรรณ ในข้อหาลักทรัพย์ อ้างว่ามีทรัพย์สินสูญหายไปรวม 11 รายการ มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2558
ขณะที่นางมณตา หยกรัตนกาญ หรือนางไก่ แถลงข่าวเปิดใจโชว์หลักฐานเด็ดเป็น “ภาพวงจรปิด” ในวันเกิดเหตุ พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ ขณะเดียวกันนายสงกานต์ นำน.ส.วณิชยา บุ้นสุนเฮง หรือน้องมีน บุตรสาวนางสุกัลยา ศิริม่วง ผู้ต้องขังในเรือนจำที่ถูกอดีตหญิงนายจ้างคนดังกล่าว แจ้งความฐานลักทรัพย์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ศูนย์ประชาบดีแม่ฮ่องสอน พา น.ส.จันทนา คชคงไทย หรือหนูนา อายุ 25 ปี กับ นายธนาธิป ศรีสิงห์ อายุ 32 ปี สามี เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนางไก่ ฐานแจ้งความเท็จ เป็นรายที่ 2 และ 3 โดยผู้เสียหายทั้งหมดให้การตรงกันว่า นางไก่ พยายามชักชวนไปประเทศฮ่องกง แต่เมื่อไม่สำเร็จจึงแจ้งความฐานลักทรัพย์ รวมทั้งพบพฤติกรรมอ้างเบื้องสูง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกนางไก่ให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 11 กรกฎาคม กระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม นางไก่ เข้าพบพนักงานสอบสวนบก.ป.เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าหน้าที่พนักงาน กลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษทางอาญา พยายามค้ามนุษย์ และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวไปตรวจค้นห้องพักในคอนโดมิเนียมย่านประชานิเวศ1และคุมตัวฝากขังศาลอาญานั้น
ล่าสุดเวลา 17.25.น. มีรายงานว่า หลังจากนางไก่ขอยื่นประกันตัววงเงิน 1.1 ล้าน ล่าสุดศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว ทั้งนี้ตามกระบวนการต้องส่งคุมตัวที่เรือนจำทัณฑสถานหญิงกลาง ต่อไป