เมื่อวันที่ 6 ก.ค. เวลา 13.00 น. นางมณตา หยกรัตนกาญ หรือหญิงไก่ นายจ้างที่แจ้งความดำเนินคดีอดีตลูกจ้างในข้าหาลักทรัพย์ แต่ต่อมาได้ถูกลูกจ้างแจ้งความกลับในข้อหาแจ้งความเท็จได้เดินทางมาที่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.พิษณุโลก เพื่อกราบไหว้พระพุทธชินราช จากนั้น ได้เดินทางมารับประทานอาหารกลางวันที่โรงแรมท็อปแลนด์ อ.เมืองพิษณุโลก
นางมณตา กล่าวว่า ได้เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวจากบ้านพักมาที่จังหวัดพิษณุโลกตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา มีความตั้งใจจะมากราบหลวงพ่อพระพุทธชินราช ที่ได้กราบไหว้มาตลอดชีวิต
“ถ้าเกิดผู้ต้องหานำเงินหรือทรัพย์สินของดิฉันไป ก็ขอให้เขามีอันเป็นไป แต่ถ้าเขาไม่ได้ลักขโมยของดิฉันไป ก็ขอให้ดิฉันมีอันเป็นไป ถ้าเราใส่ความเขา ก็ขอให้เรามีแต่ภัยพิบัติเกิดขึ้นในชีวิต แต่ถ้าเขาเอาของเราไปจริงก็ขอให้เรามีแต่สิ่งดี ๆ เกิดขึ้นในชีวิต ได้บอกหลวงพ่ออย่างนี้ ส่วนหลังจากนี้ การดำเนินชีวิตก็ปกติ ไม่หนีไปไหน ตอนนี้กระแสสังคมตัดสินไปแล้ว สื่อบางสื่อ ตัดสินไปแล้ว ตอนนี้จึงเหลือที่พึ่งสุดท้าย คือ ศาล” นางมณตากล่าว
นางมณตา กล่าวว่า อีกฝ่ายชี้นำว่า ค้ามนุษย์บ้าง เป็นคุณหญิงปลอมบ้าง ไม่ต้องห่วงว่า จะเป็นของปลอม คดีแค่ลักทรัพย์ ถ้าไม่ได้ลักทรัพย์ก็มาคุยกันมาสู่ศาลก็มีการประนีประนอม ไม่ใช่คดีใหญ่โตเลย เกิดมาไม่เคยเอาใครติดคุกเลย ตอนนี้เรากำลังดำเนินการเกี่ยวกับกฎหมายคอมพิวเตอร์ เกี่ยวกับทุกสิ่งทุกที่คนมาว่า
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามที่มาที่ไปกรณีที่มีผู้เรียกว่า “คุณหญิงไก่” ซึ่งนางมณตาตอบว่า เริ่มจากที่พิษณุโลกนั่นแหละ ผู้สื่อข่าวสมัยก่อนเสนอข่าวว่า หญิงไก่โชว์เครื่องเพชร 40 ล้านบาท หญิงไก่แจกทุนการศึกษาหลายโรงเรียนในพิษณุโลก วัดที่ไหนสร้าง ก็เดินทางไปหมด ด้วยเงินตัวเอง ทุกคนก็เลยเรียก หญิงไก่ ส่วนบางคนก็เติมว่า คุณหญิงไก่ แต่ส่วนตัวไม่ได้สนับสนุน เมื่อทุกคนเรียกจะไปห้ามอย่างไร แล้วแต่คนที่ศรัทธา แต่สำหรับเด็กที่ออกข่าว เรียกตนว่าคุณนาย ไม่ได้เรียกว่าหญิงไก่
“สำหรับกรณีไปแม่ฮ่องสอน ยืนยันว่าไปจริง แต่ไม่ได้เอาเด็กมาเป็นคนรับใช้ นำไปส่งเรียน ที่ออกมาอย่างนี้ ก็เพราะมีคนส่งเรียน ในทางคดีข้อกล่าวหาต่าง ๆ ตนปฏิเสธตลอด ที่พึ่งต่าง ๆ จึงอยู่ที่ศาลเท่านั้น ที่ผ่านมาเราผิดตามกระแสสังคมตามที่ฝ่ายตรงข้ามชี้นำ ประเทศไทยกระแสสังคมแรงจริง ๆ ยอมรับเลย ตอนนี้กำลังเข้าสู่ยุคประชาธิปไตย ประชาชนจะได้อยู่เป็นสุข อย่างเรื่องถูกใส่ความต่าง ๆ ก็ต้องพึ่งศาล” นางมณตากล่าว
นางมณตากล่าวว่า สำหรับหมายเรียกจากกองปราบปรามยังไม่ได้รับอย่างเป็นทางการ แต่ก็ทราบข่าวแล้ว และพร้อมที่จะไปพบ เดิมมีโปรแกรมจะไป จ.เชียงราย แต่ใจร้อน หลังจากให้สัมภาษณ์ที่กรุงเทพฯ ก็รอ หลังจากให้สัมภาษณ์เสร็จก็รีบมาจ.พิษณุโลกแล้วก็จะกลับ เพราะเขาบอกว่าให้มอบตัวให้การในวันที่ 11 ก.ค.เราก็ใจร้อนอยากจะไปทันที
