หนุ่มชาวนาเมืองช้างช่างคิดแก้ไขปัญหานวดข้าวเปลือกหลังเก็บเกี่ยวด้วยมือประดิษฐ์เครื่องนวดข้าวขนาดเล็กต้นทุนเพียง50 บาท โดยใช้วัสดุเหลือใช้ นำถังสีขนาด 20 ลิตรมาเจาะเสียบเหล็กและขับเคลื่อนด้วยสว่านไฟฟ้า กลายเป็นสุดยอดเครื่องนวดข้าวจิ๋ว ลดใช้แรงงานคนร่นระยะเวลาการนวดข้าวได้เป็นอย่างดี
อย่างที่ทราบกันครับ ขณะนี้อยู่ในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวและชาวนาสุรินทร์ต่างกำลังประสบปัญหาในการเก็บเกี่ยวข้าว สืบเนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักทำให้ต้นข้าวในนาที่สุกเหลืองอร่ามล้มจมน้ำและรถจักรเกี่ยวข้าวปฏิเสธที่จะรับจ้างเพราะหวั่นรถติดหล่มทำให้ชาวนาต้องลงมือเกี่ยวกันเองโดยใช้เคียวเกี่ยวข้าวนำขึ้นมาตากให้แห้งก่อนตีนวดข้าวด้วยแรงงานคนแยกเอาเฉพาะเมล็ดข้าวเปลือกตามวิธีดั้งเดิมซึ่งต้องใช้จำนวนแรงงานคนและระยะเวลามาก
แต่สำหรับนายศักดิ์สิทธิ์ผลจันทร์อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 298 ม.16 ต.สลักได อ.เมือง จ.สุรินทร์ หนุ่มชาวนาช่างคิดไอเดียบรรเจิด ได้พยายามหาวิธีทางแก้ปัญหาการนวดข้าวที่กำลังประสบอยู่ โดยนำเครื่องใช้ไฟฟ้าและวัสดุเหลือใช้ใกล้ตัวในบ้าน คือ เครื่องสว่านไฟฟ้า ถังสีเก่าขนาด 20 ลิตร และเศษเหล็ก มาเป็นต้นแบบในการประดิษฐ์เครื่องนวดข้าวเปลือกขนาดเล็กขึ้นใช้เอง ด้วยราคาต้นทุนเพียงเครื่องละ 50 บาทเท่านั้น
นายศักดิ์สิทธิ์ผลจันทร์กล่าวว่า เนื่องจากนาข้าวหอมมะลิของตนจมน้ำลึก รถเกี่ยวนวดข้าวไม่รับจ้างลงไปเกี่ยวข้าวในนาให้ จึงต้องพากันเกี่ยวมือนำข้าวขึ้นมากองตากแดดจนแห้งแล้วต้องใช้แรงงานคนจำนวนมากในการนวดข้าว จึงพยายามหาทางที่ทำให้สามารถนวดข้าวได้เร็วขึ้นและใช้แรงงานคนน้อย ด้วยการสังเกตระบบการทำงานของรถเกี่ยวนวดข้าว และลองมาลงมือคิดประดิษฐ์เครื่องนวดข้าวขนาดเล็กที่ทำจากวัสดุเหลือใช้ภายในบ้าน
โดยการนำถังสีใช้แล้วขนาด20ลิตร มาเจาะแล้วนำเหล็กเส้นมาสอดไว้รอบตัวถังสี และเชื่อมเหล็กทำโครงกันถังสีหลุด แล้วนำสว่านไฟฟ้ามาดัดแปลงเป็นมอเตอร์สำหรับขับเคลื่อนหมุนตัวถังสี จึงกลายเป็นเครื่องนวดข้าวขนาดจิ๋ว สามารถนวดข้าวเปลือกได้อย่างง่ายดาย ช่วยลดแรงงานและประหยัดเวลา จากการที่ต้องนำข้าวมาตีนวดแบบโบราณด้วยแรงคนได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญใช้ต้นทุนในการประดิษฐ์เครื่องนวดข้าวขนาดเล็กทรงประสิทธิภาพนี้เพียงเครื่องละ 50 บาทเท่านั้น….
แหม่ๆ…แนวคิดนี้ ไม่ได้ชวนให้เชื่อ แต่ จะทดลองทำกันก็ไม่ใช่เรื่องยากนะครับ