หนุ่มพัทยากร่างอ้างเป็นนักข่าว โวยวายใส่ตำรวจที่เรียกตรวจสอบเอกสารรถ โชว์เก๋าโทรเรียกลูกพี่มาเคลียร์ ตร.ไม่สนจับแจ้งข้อหา
วันนี้ (25 ก.พ.59) เวลาประมาณ 00.30 น. ผู้สื่อข่าวประจำเมืองพัทยารายงานว่า ขณะที่ ด.ต.สรรเสริญ เซื้อสวัสดิ์ เจ้าหน้าที่ ผบ.หมู่ งานจราจร ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ทำการตั้งจุดตรวจสกัดบริเวณป้อมทางเข้าพัทยาปาร์ค ถ.จอมเทียนสายสอง ได้เรียกตรวจรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยที่มี นายชัยฤทธิ์ คุณเพียร อายุ 19 ปี เป็นคนขับพร้อมเพื่อนอีก 2 คน โดยเจ้าหน้าที่ได้ขอดูเอกสารรถ แต่ผู้ขับขี่ไม่สามารถนำเอกสารรถมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ หลังจากนั้นนายชัยฤทธิ์ ได้เอาบัตรสื่อมวลชนมาอ้างตัวเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์เก้าเหล่าทัพ ประจำเขตอำเภอบางละมุง พร้อมยังพูดจาข่มขู่เจ้าหน้าที่และตำรวจอาสาที่ร่วมทำการตรวจสอบ
นาย ชัยฤทธิ์ พร้อมเพื่อนทั้ง 2 คน แสดงท่าทีพูดจาใหญ่โต และจะโทรหาลูกพี่อย่างเดียว ทางตำรวจจึงให้โทรติดต่อมาคุย หลังจากลูกพี่มาถึงก็เอามาบัตรผู้สื่อข่าวออกมาโชว์ต่อหน้าตำรวจ , กลุ่มตำรวจอาสาและสื่อมวลชนช่องต่างๆ จากการสอบถามทราบชื่อคือ นายประยวน เสพสูข อายุ 59 ปี โดยอ้างตัวว่าตนเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์เก้าเหล่าทัพไทย ตำแหน่ง หน.ศปก.ฉก.ลทท.ภ.2 เดินทางมาพร้อมลูกน้อง 7 คน ทุกคนมีบัตรผู้สื่อข่าวเก้าเหล่าทัพ พร้อมรถกระบะสีดำติดไฟไซเรนสีแดงบนหลังคารถและที่หน้ากระจกรถติดโลโก้หนังสื่อหนังสือพิมพ์เก้าเหล่าทัพและประตูรถทั้ง 2 ข้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ขอตรวจสอบใบรับอนุญาตติดไฟไซเรน แต่นายประยวน ไม่มีมาแสดงให้ดู ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวทั้งหมดมาทำการสอบประวัติที่ สภ.เมืองพัทยา พร้อมแจ้งข้อหาติดไฟไซเรนโดยไม่ได้รับอนุญาต
จากการสอบถาม นายประยวน ที่อ้างตัวเป็นหัวหน้า ให้การว่าบัตรสื่อมวลชนที่ได้มา ต้องไปประชุมที่ทางหนังสือพิมพ์เก้าเหล่าทัพจัดขึ้นมาแล้วต้องเสียค่าทำบัตรและสมาชิก คนละ 300-500 บาท จึงจะได้บัตร มี พ.ท.ขจรศักดิ์ ขจรศิลป์ บรรณาธิการบริหาร กอ.9 ลทท.เป็นคนออกบัตรให้
เจ้าหน้าที่สอบถามว่าเคยเห็นหน้านายทหารที่อ้างว่าเป็นคนออกบัตรให้เคยเห็นหน้าหรือไม่ ทางนายประยวนบอกไม่เคยเห็นหน้า รู้แต่เป็นนายทหารแต่ไม่รู้อยู่ประจำที่ไหน นอกจากนั้นผู้สื่อข่าวยังได้สอบถามว่าแต่ละคนมีหน้าที่ทำอะไรบ้าง โดยทั้งหมดอ้างว่ามีหน้าที่แจ้งเบาะแสเหตุต่างๆ รวมถึงเบาะแสผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ ซึ่งในคำกล่าวอ้างนั้นไม่เกี่ยวกับงานด้านผู้สื่อข่าวและบัตรที่ติดตัวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานของผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด