จากรายงานของ The Huffington Post ฟอสเตอร์ ฮันทิงตัน ชายหนุ่มในวัย 27 ปี ได้ละทิ้งหน้าที่การงานในธุรกิจแฟชั่นอันสดใสจากเมืองใหญ่อย่างนิวยอร์กตั้งแต่ปี 2011 เพื่อออกท่องเที่ยวด้วยตนเองไปทั่วสหรัฐฯด้วยรถตู้ หลังจบการเดินทาง เขาตัดสินใจที่จะยุติการใช้ชีวิตในเมืองเพื่อทำอะไรที่ต่างออกไปด้วยการอาศัยอยู่บนบ้านต้นไม้ในพื้นที่ชนบท
เขาเรียกบ้านต้นไม้ของเขาว่า “The Cinder Cone” (ภูเขาไฟรูปทรงกรวยอันเกิดจากการปะทุของลาวา) เนื่องจากมันถูกสร้างบนพื้นที่ที่เคยเป็นภูเขาไฟมาก่อน ซึ่งเป็นบ้านที่สร้างบนต้นไม้สูง ใช้เวลาในการก่อสร้างราวหนึ่งปี ด้วยการขอแรงจากเพื่อนๆ ซึ่งพื้นที่ในฝันแห่งนี้ของเขาก็ใกล้จะเป็นจริงขึ้นมาเต็มที และเขาพร้อมแล้วที่จะแบ่งปันเรื่องราวที่เขาได้เรียนรู้จากการเดินทางผ่านมาให้กับโลกได้รับรู้
โครงการของเขาประกอบขึ้นด้วยบ้านต้นไม้สองหลังซึ่งเชื่อมต่อกันด้วยสะพานเชือก และยังมีอ่างอาบน้ำ พร้อมกับลานสเก็ตเพื่อปลดปล่อยความเป็นเด็กในตัวออกมาอีกด้วย
เพื่อแบ่งปันเรื่องราวของเขา ฮันทิงตันได้เปิดตัวหนังสือของเขาด้วยชื่อเดียวกับโครงการ “The Cinder Cone” ซึ่งหนังสือเล่มนี้ได้บรรยายเรื่องราวการเดินทาง การวางแผน และการก่อสร้าง รวมถึงจุดสิ้นสุดของการเดินทาง โดยหวังว่า เรื่องราวของเขาจะช่วยจุดประกายให้ใครหลายๆคนลองทิ้งเมืองใหญ่มาใช้ชีวิตในมุมเล็กของตัวเองดูบ้าง
ขณะที่รายงานของ The New York Times ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่าเขาได้ละทิ้งงานในบริษัทแฟชั่นยักษ์ใหญ่ซึ่งเป็นงานแรกของเขาตั้งแต่เรียนจบหลังจากผ่านการทำงานไปเพียงปีครึ่งเท่านั้น โดยเขาเชื่อว่าหากเขายิ่งอยู่ในบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการแฟชั่นแห่งนี้นานเท่าไหร่ก็จะยิ่งทำให้เขาถอนตัวยากมากยิ่งขึ้น ด้วยเงินที่เขาหามาได้มากขึ้นความต้องการทางวัตถุของเขาก็เพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว
อย่างไรก็ดี แม้เขาจะทิ้งเมืองใหญ่แต่เขาก็ไม่ได้ละทิ้งความทะเยอทะยานและโลกแฟชั่น โดยเขายังเคยได้รับเงินค่าจ้างในฐานะที่ปรึกษาจากผู้ผลิตสินค้าเครื่องนุ่งห่มสำหรับประกอบกิจกรรมกลางแจ้ง และยังได้เป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาสินค้าคอมพิวเตอร์ชื่อดังและยักษ์ใหญ่ธุรกิจการเงินจากเยอรมนี โดยนำเสนอภาพลักษณ์แบบ “ฮิปสเตอร์” ของเขา
นอกจากนี้ ฮันทิงตันยังทำงานเป็นนักถ่ายภาพอิสระ โดยงานส่วนใหญ่ของเขามักเป็นภาพที่ใช้สิ่งก่อสร้างอันน่าอัศจรรย์ที่เขาสร้างสรรค์ขึ้นมาเองเป็นฉากหลัง