ที่มา: Matichon Online

เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเฮงจ็อบแฮปปี้ไลฟ์ เมคไลฟ์เบสเทอร์ อายุ 30 ปี ได้เดินทางมายังที่ว่าการอำเภอเมืองสุรินทร์ เพื่อทำเรื่องขอเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล เป็นชื่อ-นามสกุลเดิม คือ “นายแสน สร้อยสูงเนิน”  ด้วยความสมัครใจ พร้อมกับทำบัตรประชาชนใหม่ และติดต่อเรื่องทะเบียนบ้านด้วย 

นายแสน แจ้งกับนายอำเภอว่า เหตุชื่อที่เปลี่ยนไม่สะดวกจะเขียน และเขียนก็ยาก ขณะที่นายอำเภอเมืองสุรินทร์ ได้ให้ข้อคิดว่าชื่อ “แสน” นั้นดีแล้ว เช่น แสนสุข แสนดี แสนสำราญ เป็นชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้ หลังเปลี่ยนเสร็จเจ้าตัวดีใจมากถึงกับคุกเข่าขอบคุณและกอดนายอำเภอก่อนลากลับบ้านไป

ขณะที่ทางอำเภอเมืองสุรินทร์ได้ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมการปกครองให้ทราบถึงการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุลเดิมดังกล่าวอีกด้วย เนื่องจากว่าช่วงที่เป็นกระแสข่าวเมื่อปีที่แล้วนั้นทางอธิบดีกรมการปกครองได้ให้ทางอำเภอเมืองสุรินทร์ชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้นดังกล่าว

32

ทั้งนี้เมื่อปีที่แล้วได้เกิดกรณีที่สังคมออนไลน์แชร์ภาพผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ ที่ระบุชื่อว่า นายเฮงจ็อบแฮปปี้ไลฟ์ นามสกุล เมคไลฟ์เบสเทอร์ จนกลายเป็นที่ตั้งข้อสังเกตว่า เป็นชื่อ-นามสกุลจริงหรือไม่ ตลอดจนสำนักงานทะเบียนราษฎรจังหวัดสุรินทร์ยินยอมให้ตั้งชื่อหรือเปลี่ยนชื่อได้อย่างไร เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2557 ซึ่งขณะนั้น ร.ต.ท.ปรีชา ชนะ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ เผยว่า ผู้ต้องหารายนี้ถูกจับกุม เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2557 หลังก่อเหตุลักทรัพย์โทรศัพท์มือถือ ไอโฟน 5เอส ของผู้เสียหายรายหนึ่ง ที่สนามบาสเกตบอลสวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 80 พรรษา ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ส่วนชื่อของผู้ต้องหานั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจลงบันทึกจับกุมตามบัตรประชาชน เบื้องต้นแปลกใจเช่นเดียวกัน แต่ผู้ต้องหามีหลักฐานเป็นบัตรประชาชน และเอกสารเปลี่ยนชื่อ จึงลงบันทึกตามข้อเท็จจริง ส่วนการเปลี่ยนชื่อจะมีผลต่อการสืบสวนติดตามตัวหรือไม่นั้น ในมุมมองของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เชื่อว่าหากชื่อนามสกุลมีความแปลก ก็ยิ่งติดตามหาตัวได้ง่าย 

ขณะที่ตอนนั้น นายวัลลภ เรืองพรเจริญ นายอำเภอเมืองสุรินทร์ ในขณะนั้น (ปัจจุบันเกษียณอายุราชการแล้ว) กล่าวว่า ผู้ต้องหาชื่อแปลกรายนี้ เดิมชื่อนายแสน สร้อยสูงเนิน แต่มายื่นเอกสารขอเปลี่ยนชื่อเป็น นายเฮงจ็อบแฮปปี้ไลฟ์ นามสกุล เมคไลฟ์เบสเทอร์ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่า ต้องการเสริมดวงชีวิตให้ดีขึ้น ตาม พ.ร.บ.ชื่อบุคคล พ.ศ.2505 มาตรา 6 ชื่อสกุลต้องไม่มุ่งพ้อง หรือมุ่งหมายให้คล้ายกับพระปรมาภิไธย หรือของพระราชินี หรือราชทินนาม และต้องไม่มีคำหรือความหมายหยาบคาย ชื่อรองต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตาม วรรค 1 และต้องไม่พ้องกับชื่อสกุลของบุคคลอื่น เว้นแต่เป็นชื่อสกุลของฝ่ายสมรสใช้ชื่อสกุลอีกฝ่ายหนึ่ง หรือกรณีบุตรใช้ชื่อเดิมหรือนามสกุลเดิมของบิดา มารดา เป็นชื่อรองของตน

ซึ่งการเปลี่ยนชื่อของนายแสน สร้อยสูงเนิน กฎหมายไม่ได้บัญญัติไว้ว่า ห้ามในลักษณะแบบนี้ เมื่อตรวจดูไม่ขัดกับ มาตรา 6 ดูแล้วมีความหมายตรงกับที่เจ้าตัวบอก โชคดีการงานรุ่งเรือง ตามภาษาอังกฤษว่าแฮปปี้ไลฟ์ ก็เลยได้เปลี่ยนชื่อให้นายแสน สร้อยสูงเนิน ไป และในวันนั้นเองเขาก็ขอตั้งชื่อสกุลเป็น เมคไลฟ์เบสเทอร์ ซึ่งแปลว่าเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งตนเองได้ทักท้วงตั้งแต่การมายื่นคำขอเปลี่ยนชื่อ-สกุล ว่าชื่อมันแปลกนะ และเราก็เป็นคนไทย แล้วไปใช้ชื่อภาษาอังกฤษได้อย่างไร แต่เจ้าตัวก็ยืนยันว่าจะเอาชื่อนี้ โดยอ้างว่าเปลี่ยนชื่อ เพื่อความเป็นสิริมงคล และให้ชีวิตดีขึ้น เขาต้องการชื่อนี้ทางอำเภอก็ยินดีให้เปลี่ยนตามคำร้องขอ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2557

เรื่องน่าสนใจ