ผู้สื่อข่าวโดดเด่นดอทคอม รายงานว่า วันนี้ ( 18 กรกฎาคม 2560 ) นาวาอากาศตรี นายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ช่วงเปิดภาคเรียนใหม่ ปัญหาที่ตามมาในทุกปี สำหรับวงการศึกษาไทยที่มีมาอย่างยาวนาน คือ รูปแบบการรับน้องที่ไม่สร้างสรรค์ ทั้งการสร้างความอับอาย หรือบางกิจกรรมปะปนแต่เรื่องทางเพศ หรือใช้ความรุนแรงทั้งร่างกายและวาจา
ทั้งหมดนี้เป็นการลดคุณค่าของความเป็นมนุษย์ และละเมิดสิทธิมนุษยชน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังมีสถาบันการศึกษาหลายแห่ง ที่คงไว้ซึ่งข้อดีของระบบการรับน้อง เช่น มีแนวคิดว่า เป็นการรับเพื่อนใหม่มากกว่าการรับน้อง ใช้รูปแบบกิจกรรมเชิงบวกและสร้างสรรค์ ให้พี่รหัสคอยดูแลน้องรหัสเรื่องการเรียน เป็นต้น ซึ่งควรชื่นชมและนำเป็นแบบอย่าง
ทั้งนี้ ในสถานศึกษาอาจมีการ “รับน้อง” ตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษา โดยจัดกิจกรรมและบรรยากาศที่สร้างสรรค์ เพื่อเป็นการปลูกฝังวัฒนธรรมในการช่วยเหลือกัน โดยเฉพาะรุ่นพี่ที่ควรช่วยเหลือรุ่นน้อง หรือคนที่อยู่โรงเรียนนั้นมาก่อนควรให้คำแนะนำ ดูแลคนที่เพิ่งเข้าเรียนใหม่ เป็นต้น ซึ่งสถานศึกษาต้องสนับสนุนให้เกิดกิจกรรมอย่างสร้างสรรค์นี้ขึ้น
นอกจากนี้ ขอแนะนำรุ่นพี่ให้พึงตระหนักถึงความเข้มแข็งทางจิตใจของรุ่นน้องที่แตกต่างกันด้วย เนื่องจากแต่ละคนย่อมมาจากสภาพแวดล้อม ครอบครัว และความเป็นอยู่ที่แตกต่างกัน มีความเปราะบางทางจิตใจต่างกัน บางคนอาจทนไม่ได้ในสิ่งที่คนส่วนมากทนได้ จะได้ไม่ต้องมาเสียใจภายหลัง
เมื่อต้องตกเป็นจำเลยของสังคมหรือถูกฟ้องร้อง ทางที่ดี ทั้งผู้ปกครอง ครูอาจารย์ รวมทั้งรุ่นพี่ควรช่วยกันดูแล ประคับประคองให้น้องใหม่ผ่านพ้นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตที่เปลี่ยนผ่านจากนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายมาเป็นนิสิตนักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยจะดีกว่า
เนื่องจากพวกเขาอาจเกิดความเครียด ความกดดันและความวิตกกังวลในการปรับตัวต่อสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ที่ไม่คุ้นเคย ผู้ที่บุคลิกภาพไม่เข้มแข็งอาจจะถูกชักจูงไปในทางที่ไม่ดีได้ จึงควรมาช่วยกันดูแลมากกว่าสร้างความกลัว ความกดดันให้พวกเขามากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ รุ่นพี่และรุ่นน้อง สามารถขอรับบริการปรึกษา ได้ที่ สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าว
ด้าน นายแพทย์ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ หัวหน้ากลุ่มที่ปรึกษากรมสุขภาพจิตและโฆษก สธ. กล่าวว่า การออกคำสั่ง คาดโทษ หรือลงโทษกับรุ่นพี่หรือผู้ที่เผยแพร่ภาพกิจกรรมรับน้องตามข่าวหรือแม้แต่เด็กผู้ร่วมกิจกรรม สถาบันการศึกษาอาจต้องกลับไปทบทวนถึง ค่านิยม และปรัชญา ขององค์กร ในการผลิตหรือสร้างคนที่ต้องเห็นถึงคุณค่าในตนเอง เคารพตนเอง เห็นคุณค่าของผู้อื่น เคารพศักดิ์ศรีของผู้อื่น
สำหรับระบบการรับน้อง ที่ต้องสะท้อนถึงปรัชญาของสถานศึกษานั้นจริง ๆ ควรปรับรูปแบบการรับน้องให้เป็นกิจกรรมเชิงบวกและสร้างสรรค์ให้มากขึ้น เช่น ให้พี่ดูแลน้อง หรือออกไปทำกิจกรรมจิตอาสาร่วมกัน เป็นต้น แต่หากยอมรับรุ่นพี่ที่ทำไม่ถูกจากระบบการรับน้องที่ไม่สร้างสรรค์ย่อมเป็นพื้นฐานต่อการใช้อำนาจโดยไม่มีเหตุผล ให้คนยอมจำนนต่อสิ่งที่ผิด สร้างระบบพวกพ้อง ก่อให้เกิดการสร้างปัญหาอื่นๆ ตามมาได้อีก