ผู้สื่อข่าวโดดเด่นดอทคอม รายงานว่า วันนี้ (11 พฤษภาคม 2560 ) ศ.คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข, นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาการขอกำหนดตำแหน่งพยาบาลเป็นข้าราชการ และให้สัมภาษณ์ว่า
ท่านนายกรัฐมนตรีมีความห่วงใย ปัญหาการขอกำหนดตำแหน่งพยาบาลเป็นข้าราชการใหม่ของกระทรวงสาธารณสุข หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติไม่อนุมัติ ตามข้อเสนอของคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลัง คนภาครัฐ (คปร.) ที่ให้ความเห็นว่าน่าจะมีการบริหารจัดการอัตราตำแหน่งที่ว่าง และจะให้กระทรวงสาธารณสุขนำตำแหน่งว่างที่มีอยู่ และตำแหน่งที่จะว่างในอนาคตมาบริหารจัดการ
“ขอให้พยาบาลทุกคนมีขวัญและกำลังใจในการทำงานเพื่อประชาชน ท่านนายกรัฐมนตรีและผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขห่วงใยและกำลังแก้ไขปัญหา ซึ่งหลังจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติดังกล่าว ท่านนายกรัฐมนตรีได้เขียนโน้ตถึงผม ให้ช่วยนำตำแหน่งว่างที่มีอยู่ มาบริหารจัดการ บรรจุพยาบาลที่รอบรรจุอยู่ และเมื่อดำเนินการบริหารจัดการจนถึงที่สุดแล้ว ยังมีปัญหาอยู่ ก็ให้มาพูดคุยกันอีกครั้ง” ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล กล่าว
ศ.คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล กล่าวต่อว่า ในวันนี้ได้ให้ผู้เกี่ยวข้องเรื่องแผนกำลังคนกระทรวงสาธารณสุข มาทบทวนการบริหารจัดการตำแหน่งว่าง ซึ่งในปีงบประมาณ 2560 มีตำแหน่งว่าง 11,026 ตำแหน่ง
โดยเป็นตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพ 2,621 ตำแหน่ง ในจำนวนนี้ใช้เลื่อนระดับและรับโอน รับย้าย บรรจุกลับ เหลือที่สามารถดำเนินการบรรจุใหม่ได้ 1,200 ตำแหน่ง ซึ่งได้ทยอยดำเนินการแล้ว คาดว่าจะบรรจุได้ภายใน 1-2 เดือนนี้
และจะมีตำแหน่งว่างของผู้เกษียณอายุอีก 785 อัตราในเดือนตุลาคม 2560 ทั้งนี้ เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุข มีเจ้าหน้าที่จำนวน 4 แสนกว่าคน ตำแหน่งที่ว่างร้อยละ 5 ของหน่วยงาน เมื่อเทียบกับอัตรากำลังก็ถือว่ามีจำนวนไม่มากนัก
สำหรับการขอตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพ 10,992 อัตรานั้น เป็นการขอตำแหน่งสำหรับ 3 ปี ทั้งนี้ หลังการบริหารจัดการแล้วตำแหน่งว่างจะเหลือประมาณร้อยละ 2-3 ซึ่งไม่ใช่เฉพาะตำแหน่งของพยาบาลวิชาชีพ แต่เป็นตำแหน่งของเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม จะได้มีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิด ระหว่าง กระทรวงสาธารณสุข, ก.พ. และ คปร. เนื่องจากพยาบาลเป็นกำลังที่สำคัญของกระทรวงสาธารณสุข ที่ทำงานบริการประชาชนร่วมกับสหวิชาชีพจำเป็น ต้องมีอัตราส่วนที่เหมาะสม เพื่อให้การบริการประชาชนเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ รองรับสังคมผู้สูงอายุ
โดยเตรียมตั้งคณะทำงานร่วมกันและมีผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานนอก เช่น มหาวิทยาลัยที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องอัตรา กำลังเข้าร่วมพิจารณา โดยขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขมีพยาบาลทุกการจ้างงาน 100,855 คน เป็นข้าราชการ 87,252 คน พนักงานราชการ 260 คน พนักงานกระทรวงสาธารณสุข 6,538 คน และลูกจ้างชั่วคราว 6,805 คน