จากสถานการณ์การเกิดเหตุอุทกภัย ที่จังหวัดสกลนคร เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พบ 7 อำเภอได้รับความเสียหาย ได้แก่ อ.เมืองสกลนคร อ.สว่างแดนดิน อ.พังโคน อ.เต่างอย อ.กุสุมาลย์ อ.พรรณานิคม และอ.อากาศอำนวย สร้างความเสียหาย ให้แก่ 7,863 ครัวเรือน และประชาชนอีก 23,538 คน ได้รับความเดือดร้อนนั้น
ผู้สื่อข่าวโดดเด่นดอทคอม รายงานว่า วันนี้ (30 กรกฎาคม 2560) นายแพทย์วิศิษฎ์ ตั้งนภากร อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.)กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น กรม สบส.มีความเป็นห่วงประชาชนเป็นอย่างมาก เพราะภัยที่เกิดจากน้ำท่วมไม่ได้ส่งผลกระทบแค่ทรัพย์สินของประชาชน แต่ยังมีผลกระทบต่อสุขภาพ ร่างกายของประชาชนเป็นอย่างมาก ทั้งการระบาดของโรคที่มากับน้ำท่วมทั้งอุจจาระร่วง ตาแดง โรคฉี่หนู ฯลฯ หรือ การขาดยาของผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
ดังนั้น สถานพยาบาลซึ่งเป็นที่พึ่งพิงด้านสุขภาพของประชาชนจะต้องมีความพร้อมที่จะให้บริการประชาชนได้ตลอดเวลา จึงได้มอบหมายให้สำนักงานสนับสนุนบริการสุขภาพ เขต 8 จังหวัดอุดรธานี
และทีมเอ็มเสิร์ท (Medical Supportive Emergency Response Team : MSERT ) จาก กองวิศวกรรมการแพทย์ กองแบบแผน เข้าช่วยเหลือ ฟื้นฟู โรงพยาบาลพังโคน ซึ่งประสบเหตุอุทกภัยหลายจุดโดนน้ำท่วมสูง 1 – 1.2 เมตร ให้กลับมาพร้อมให้บริการประชาชนได้ตามปกติ
ด้าน นายแพทย์ประภาส จิตตาศิรินุวัตร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า จากการประเมินความเสียหายเบื้องต้นของโรงพยาบาลพังโคน โดยทีมเอ็มเสิร์ท พบความเสียหายใน 6 จุด ดังนี้ 1.ระบบบำบัดน้ำเสียของโรงพยาบาลถูกน้ำท่วมเสียหาย ไม่สามารถใช้การได้ 2.อาคารซักฟอก โรงครัว หน่วยจ่ายกลาง งานพับผ้า ถูกน้ำท่วมสูง ทำให้ระบบไฟฟ้าเสียหายไม่สามารถใช้การได้
3.บ้านพักเจ้าหน้าที่จมน้ำทั้งหมด ไม่สามารถเข้าพักได้ อยู่ระหว่างการขนย้ายสิ่งของออกจากบ้านพัก 4.คลังยา ของโรงพยาบาลถูกน้ำท่วมบางส่วน เจ้าหน้าที่กำลังช่วยกันขนย้ายยา เวชภัณฑ์ทางการแพทย์ขึ้นที่สูงเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย
5.โรงไฟฟ้า ต้องเสริมกระสอบทรายสูง 1 เมตร และใช้ปั้มน้ำสูบน้ำออกตลอดเวลา แต่ระบบไฟฟ้าและระบบไฟฟ้าสำรองยังใช้การได้ปกติ 6.อาคารผู้ป่วยนอกถูกน้ำท่วมขังสูง ประมาณ 30-40 เซนติเมตร การเดินทางเป็นไปด้วยความยากลำบาก ประชาชนต้องเดินลุยน้ำเพื่อมารับบริการ และ7.ระบบโรงสูบน้ำไม่สามารถสูบน้ำได้ เบื้องต้นขณะนี้ยังสามารถใช้น้ำที่ยังคงค้างอยู่ และคาดว่าจะใช้ได้ไม่เกิน 12 ชั่วโมง
ขณะนี้ ทีมเอ็มเสิร์ทอยู่ระหว่างการฟื้นฟูทุกระบบที่มีส่วนสำคัญในการบริการของโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน ทั้งไฟฟ้า ประปา ระบบสื่อสาร อาคารสถานที่ และเครื่องมือแพทย์ให้โรงพยาบาลสามารถกลับมาให้บริการประชาชนได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด พร้อมจัดทีมเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง หากเกิดเหตุฝนตกซ้ำในช่วงนี้ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อสถานพยาบาลในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียงได้