( 8 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าตรวจสอบเหตุ กรณีสุนัขจรจัดออกมาวิ่งไล่ขย้ำชาวบ้าน ที่กำลังเดินทางมาทำบุญช่วงเทศกาลวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ภายในวัดบางเกลือ ตั้งอยู่เลขที่ 24 ม.3 ต.บางเกลือ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บถึง 5 ราย ถูกนำตัวส่งไปรักษายัง รพ.ใกล้เคียง 2 แห่ง และส่งต่อไปยัง รพ.พุทธโสธร ซึ่งเป็น รพ.ประจำจังหวัดจำนวน 2 ราย เนื่องจากมีอาการสาหัสถูกสุนัขกัดถูกอวัยวะสำคัญ
โดยหนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บยังประกอบด้วย ด.ญ.เม่ย อายุ 3 ขวบ ชาวกัมพูชา ถูกสุนัขกัดขย้ำเข้าที่บริเวณใบหน้าจนเป็นแผลเหวอะหวะ บริเวณหน้าผากเหนือตาซ้ายใต้ไรผมจำนวน 1 แผล เหนือคิ้วขวา 1 แผล กระพุ้งแก้มและขอบปากด้านขวาฉีกขาด 1 แผล แก้มและขอบปากด้านซ้าย 1 แผล ใต้คางซ้ายถูกแรงกระชากของคมเขี้ยวจนฉีกขาด 1 แผล
ทางทีมแพทย์และพยาบาลประจำ รพ.บางปะกง ไม่สามารถที่จะทำการเย็บและรักษาบาดแผลให้ได้ เนื่องเป็นอวัยวะสำคัญ และในเวลาเดียวกันนั้น ได้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในพื้นที่หลายกรณี จึงทำให้มีผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก โดยต้องส่งตัวให้ไปทำการเย็บบาดแผลและทำการรักษาต่อยังที่ รพ.พุทธโสธร
นายถนอม อายุ 64 ปี ถูกคมเขี้ยวของสุนัขขย้ำเข้าที่หัวขอบตาขวา ในขณะที่กำลังปัดป้องต่อสู้กับสุนัขจนล้มลง มีบาดแผลฉีกขาดเย็บถึง 12 เข็ม และถูกส่งตัวให้ไปทำการรักษาบาดแผลยังที่ รพ.พุทธโสธร เช่น เดียวกัน เนื่องจากทางแพทย์มีความเห็นว่าบริเวณที่เกิดบาดแผลนั้นเป็นอวัยวะสำคัญ คือ ดวงตา จึงมีความจำเป็นที่จะต้องให้แพทย์เฉพาะทางเป็นผู้ทำการตรวจรักษาอาการของบาดแผลที่เกิดขึ้น
ขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์สุนัขจรจัดไล่กัดขย้ำชาวบ้าน ภายในบริเวณวัดบางเกลืออีก 3 รายนั้น ประกอบด้วย น.ส.จารุวรรณ อายุ 19 ปี ถูกคมเขี้ยวกัดจนเป็นรูโหว่ ที่บริเวณต้นขาขาซ้าย พักรักษาตัวอยู่ใน รพ.เอกชนแห่งหนึ่งในพื้นที่ (จุฬารัตน์ 11) น.ส.วาริณี อายุ 17 ปี ถูกคมเขี้ยวของสุนัขกัดเข้าที่บริเวณต้นแขนซ้าย และ น.ส.รุจิรา อายุ 43 ปี มีบาดแผลเป็นรอยถากอยู่ที่บริเวณต้นแขนขวาจำนวน 2 รอย ซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นรอยของคมเขี้ยว หรือรอยของเล็บเท้าสุนัข ได้ถูกส่งมาทำบาดแผลยังที่ รพ.บางปะกง เช่นเดียวกัน
น.ส.รุจิรา กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนพร้อมด้วย น.ส.วาริณี บุตรสาว กำลังเดินออกจากบ้านที่บริเวณข้างวัดเข้าไปยังภายในวัดบางเกลือ ได้มีสุนัขพันธุ์ไทยรูปร่างใหญ่เต็มวัย สีแดงส้มอมเหลือง ได้กระโจนเข้ามาขย้ำไล่กัดบุตรสาวของตนจนล้มลง ตนจึงได้พยายามที่จะเข้าไปช่วยเหลือ จึงถูกเล็บเท้าหน้าหรือเขี้ยวของสุนัขถากจนเป็นรอยบาดแผลที่ต้นแขน ก่อนที่ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์จะเข้าช่วยไล่สุนัขจนหนีไป
ซึ่งสุนัขตัวดังกล่าวนี้ไม่ใช่หมาวัด เนื่องจากปกติหมาวัดจะไม่กัดคน โดยน่าจะเป็นหมาจรจัดที่มาจากที่อื่นเพราะชาวบ้านไม่มีใครเคยพบเห็นในหมู่บ้านมาก่อน น.ส.รุจิรา กล่าว
นางภาด อายุ 28 ปี และ นางซก อายุ 35 ปี มารดาและป้า ของ ด.ญ.เม่ย กล่าวว่า “ขณะเกิดเหตุนั้น ได้เดินทางมาทำบุญยังภายในวัดแห่งนี้เนื่องในวันเทศกาลเข้าพรรษา โดยเดินมาพร้อมๆ กันจำนวน 7 คน ประกอบด้วยเด็กๆ 5 คน คือ บุตรของนางภาด 2 คน และบุตรของนางซก 3 คน ก่อนมาถูกสุนัขไล่กัด จนได้รับบาดเจ็บและกำลังจะถูกส่งต่อให้ไปรักษาตัวยังที่ รพ.ในเมืองฉะเชิงเทรา โดยที่พวกตนนั้น ยังไม่มีเงินค่ารักษาพยาบาลเลย” นางซกกล่าว
นายสนม อายุ 68 ปี กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าสุนัขจรจัดที่เข้าไปไล่กัดคนภายในวัดนั้น ได้เข้ามาไล่กัดตนที่กำลังอยู่ภายในบ้านชั้นเดียวก่อนแล้ว แต่ได้มีแมวที่ตนเลี้ยงไว้ภายในบ้าน กระโดดเข้ามาช่วยเหลือสู้กับสุนัข จนแมวของตนถูกสุนัขกัดตายไป ตนจึงได้ใช้ไม้ไล่ตีสุนัขตัวนี้หวังให้ตายไปด้วย เนื่องจากมองดูแล้วน่าจะเป็นสุนัขบ้า เพราะมีลักษณะคอแข็งวิ่งตัวตรงและหางตก
แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเป็นวันพระใหญ่ จึงทำได้แค่ตีเพื่อไล่ให้ออกจากบ้านไปเท่านั้น ก่อนที่สุนัขจะเข้าไปไล่กัดผู้คนภายในบริเวณวัด รวมถึงหลานสาวของตนเองที่กำลังเดินเข้าไปยังภายในวัด ก็ยังถูกกัดด้วย นายสนมกล่าว
และยังกล่าวต่ออีกว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาแล้ว คนที่ออก พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ คุ้มครองสุนัข จะรับผิดชอบอย่างไร หรือถ้าหากตนตีสุนัขบ้าตายไปเมื่อเช้า ก็อาจถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ฉบับคุ้มครองสุนัขนี้ไปด้วย แล้วใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ จะมีคนมารับผิดชอบไหม หรือไม่รู้ว่าเป็นหมาของใคร แล้วจะทำกันอย่างไร
เพราะหากตีตายไปแล้วคนตีตายก็ต้องมีความผิดอีก อย่างนี้ชาวบ้านเขาเดือดร้อนกัน ขณะเดียวกันถึงตอนนี้สุนัขตัวที่ไล่กัดชาวบ้านก็ยังคงวิ่งวนเวียนอยู่ภายในหมู่บ้าน แล้วใครจะเป็นคนเข้ามาจัดการ นายสนมกล่าว
ทางด้าน นางประจวบ อายุ 65 ปี กล่าวว่า ได้เห็นเด็กวัย 3 ขวบ ชาวกัมพูชา ที่ถูกสุนัขกัดขย้ำใบหน้าจนเละแล้ว ก็รู้สึกสงสารน่ากลัวมาก ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากสุนัขไปไล่กัดคนตายแล้วจะทำอย่างไร คนถูกกัดแล้วไม่มีใครมารับผิดชอบ ไม่มีเงินค่ารักษาจะทำกันอย่างไร ได้เห็นบาดแผลรอยกัดแล้วรู้สึกหวาดเสียวมาก ที่ปากของเด็กนั้นฉีกขาดจนเป็นแผลใหญ่ ใบหน้าเละหมดเลย จึงรู้สึกสงสารเด็กมากๆ
“เมื่อหมา มี พ.ร.บ.คุ้มครอง คนไปฆ่าหมาแล้วมีความผิด แล้วเมื่อหมามากัดเด็กแล้วหมามีความผิดไหม แล้วจะไปเอาความผิดกับใคร จะไปเอาเงินทองค่าเสียหายค่ารักษาได้จากใคร พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ ฉบับที่ออกมาบังคับใช้ อันนี้มันใช้ไม่ได้หรอก
เมื่อหมามาไล่กัดคนเป็นจำนวนมากแบบนี้แล้ว ไม่มีใครมารับผิดชอบ อย่างนี้ก็เท่ากับคนต้องเจ็บตัวฟรี หรือตายฟรี เพราะหมามีสิทธิ์ทางกฎหมายเหนือกว่าคน” นางประจวบกล่าว
