กลิ่นตัวหรือกลิ่นเต่าแรง คงไม่มีใครอยากให้เกิดกับตัวเองเป็นแน่ แต่แหม!!! ไอ้การจะให้ไม่ให้กลิ่นตัวหรือกลื่นเต่าของเราแรงเนี่ยมันห้ามกันได้ที่ไหน บางคนกลิ่นตัวแรงอาจเป็นเพราะในเรื่องการดูและความสะอาดไม่ดี เรื่องการกินอาหารที่มีกลิ่นแรง
หรืออาจจะเป็นในเรื่องของกรรมพันธุ์ ซึ่งอย่างหลังเนี่ยดูจะน่าหนักใจที่สุด ซึ่งอาการกลิ่นตัวแรงไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายก็สามารถมีกันได้ทุกคน เพียงแต่ว่ากลิ่นตัวของผู้ชายนั้นอาจจะรุนแรงกว่าของผู้หญิงเล็กน้อย เพราะผู้ชายจะมีต่อมเหงื่อมากกว่าผู้หญิง
เมื่อมีเหงื่อมากก็มีโอกาสที่เหงื่อจะไปรมตัวกับเชื้อแบคทีเรียที่อยู่บนผิวหนังของเราได้มาก ทำให้เกิดกลิ่นตัวได้ง่ายยิ่งขึ้น
จากปัญหากลิ่นตัวหรือกลิ่นเต่าที่ได้กล่าวมานั้นถึงแม้จะน่าหนักใจแต่เราก็สามารถป้องกันและหลีกเลี่ยงปัญหากลิ่นตัวแรงนี้ได้ไม่ยาก ลองทำตามวิธีที่จะบอกต่อไปนี้ เพื่อจัดการปัญหากลิ่นตัวแรงให้หมดไปกันดีกว่า
ทำความสะอาดรักแร้ด้วยสารส้ม
เชื่อว่าหลายๆคนคงรู้จักสารส้มเป็นอย่างดี แล้วหลายคนก็คงเคยลองเอาสารส้มมาขัดมาถูที่รักแร้เพื่อช่วยกำจัดกลิ่นกันบ้างแล้ว แต่หากใครยังไม่เคยลองสารส้มถือเป็นวิธีเบสิคที่สุดในการช่วยขจัดกลิ่นเต่าได้อย่างดีเยี่ยม
เพียงแค่ไปหาซื้อสารส้มซึ่งจะมีลักษณะเป็นผลึกสีขาวขุ่น มาทาถูรักแร้ในระหว่างที่อาบน้ำ โดยให้ถูรักแร้ด้วยสารส้มก่อน จากนั้นค่อยฟอกสบู่ตามไป อาบน้ำให้สะอาด
แค่นี้กลิ่นเต่าบริเวณรักแร้ก็จะหายไปอย่างง่ายดาย แต่แนะนำว่าอย่าใช้ทุกวัน เพราะอาจจะทำให้เกิดการระคายเคือง แสบบริเวณรักแร้ได้ แต่ถ้าใครไม่รู้สึกแสบก็ใช้ได้ตามต้องการ ราคาก็ถูกมากๆแค่ก้อนละ 10 บาทก็ใช้ไปได้หลายเดือนแล้ว ทั้งถูกทั้งดีต้องรีบหามาใช้กันแล้ว
ทำดีท็อกกำจัดของเสียในร่างกาย
การทำดีท็อก(Detox) หรือการกำจัดของเสียที่อยู่ภายในร่างกายนั้น เป็นวิธีที่ช่วยกำจัดกลิ่นตัวโดยการทำให้ของเสียหรือสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่ในลำไส้ของเราหลุดออกมา
โดยนิยมใช้กาแฟในการสวนเข้าไปที่รูทวาร เพื่อให้กาแฟเข้าไปชะล้างสิ่งสกปรก จากนั้นก็ปล่อยกาแฟออกมาพร้อมกับของเสียที่หมักหมมอยู่นานออกสู่ภายนอกร่างกาย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีการที่ช่วยให้กลิ่นตัว กลิ่นเต่าหายได้ดีเช่นกัน
โบท็อกซ์ลดกลิ่นตัว
หากใครต้องการวิธีการกำจัดกลิ่นตัวแบบเร่งด่วนแล้ว การฉีดโบท็อกซ์ หรือ สารโบทูลินัม ท็อกซิน ก็ดูจะเป็นวิธีที่น่าสนใจ โดยสารโบท็อกซ์ที่ว่าจะเข้าไปยับยั้งการทำงานของต่อมเหงื่อภายในร่างกาย ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดกลิ่นตัว ทำให้กลิ่นตัวหายได้ชะงัดชะงัน
แต่ข้อเสียของวิธีนี้คือมันไม่ช่วยให้กลิ่นตัวหายไปอย่างถาวร หนึ่งเข็มจะอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน แล้วกลิ่นเต่าของเราก็จะกลับมากำเริบอีก รวมไปถึงราคาในการฉีดโบท็อกซ์นั้นก็สูงไม่ใช่เล่น หากใครมีกำลังทรัพย์และกลิ่นตัวแรงแล้วล่ะก็จะลองฉีดโบท็อกซ์ดูก็ได้นะครับ
แช่ตัวด้วยน้ำมันสกัดจากใบสาระแหน่
วิธีแก้กลิ่นตัววิธีนี้ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ไปหาซื้อพวกหัวน้ำมันหอมระเหยที่สกัดมาจากใบสาระแหน่ มาผสมกับน้ำในอ่างอาบน้ำ จากนั้นเราก็ลงไปแช่ในน้ำสัก 5-10 นาที สารสกัดจากใบสาระแหน่จะช่วยลดกลิ่นตัว กลิ่นเต่าได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยให้เราผ่อนคลายความเครียดได้ดีอีกด้วย ลองทำกันดูรับรองจะติดใจ
เบคกิ้งโซดาขัดตัวลดกลิ่น
เบคกิ้งโซดาจัดว่าเป็นสารสาระพัดประโยชน์จริง นอจากจะเอาไปใช้ทำอาหาร ทำขนมได้แล้ว ยังใช้ในการดับกลิ่นตัวได้เป็นอย่างดี วิธีการก็นำเบคกิ้งโซดามาผสมกับน้ำให้พอข้นๆ จากนั้นก็เอามาพอกไว้ตามเนื้อตามตัว ในบริเวณที่เกิดกลิ่นตัวได้ง่าย เช่น รักแร้ ข้อพับต่างๆ หรือพอกทั้งตัวเลยก็ได้ ทิ้งไว้สัก 10 นาที แล้วก็ล้างออก ก่อนล้างอาจจะขับถูตัวเพื่อให้เบคกิ้งโซดาช่วยขจัดเซลผิวที่ตายแล้วออกไปด้วย เป็นการลดการเกิดกลิ่นได้อีกทางหนึ่ง
แป้งทาตัวลดกลิ่นเต่า
วิธีที่คนนิยมและบอกกันมาแบบปากต่อปาก ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและช่วยขจัดกลิ่นตัวได้อย่างได้ผลก็คือ การทาแป้งลดกลิ่นตัว ซึ่งแป้งที่นิยมกันมากก็จะมีอยู่ 2 ตัว
ก็คือ แป้งตราเต่าเหยียบโลก กับแป้งสะอาด ซึ่งเป็นแป้งตำรับไทยๆ โดยเน้นที่ส่วนผสมของธรรมชาติเป็นหลัก วิธีใช้ก็แค่โรยตัว ทาให้ทั่วหลังจากอาบน้ำ โดยเฉพาะที่รักแร้นั้น ให้ทาตอนที่รักแร้ยังไม่แห้งมากนัก ก็จัดการปะแป้งลงไปที่รักแร้ให้ขาวจนแห้ง จะช่วยแก้ปัญหากลิ่นเต่าที่ทรงพลังได้เป็นอย่างดี
หวังว่าวิธีแก้กลิ่นตัว ลดกลิ่นเต่าที่ได้แนะนำกันมานี้ จะช่วยขจัดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ออกไปได้ ลองเอาวิธีดับกลิ่นตัวที่ชอบไปใช้ดูครับ เวลาเหงื่อออกจะได้ไมั่นใจได้ว่าไม่ส่งกลิ่นตัวโชยไปแตะจมูกคนอื่นเข้า ถ้าเป็นอย่างนั้นเราอาจจะไม่มีใครคบก็ได้นะครับ (ทนกลิ่นตัวไม่ไหว) อิอิ ^^
ที่มา http://healthbeautydd.blogspot.com/2013/09/body-odor.html