”หลินอวิ๋น” อดีตมิสมาเลเซียในปี 2003 แต่ด้วยบุคลิกลักษณะ และข่าวคราวเรื่องศัลยกรรมของเธอทำให้ ”หลินอวิ๋น” ไม่รุ่งในวงการนางงามเท่าที่ควร ทำให้เธอต้องผันแปรตัวเองมาอวดของดีอย่างอื่นแทน อย่างการเป็นพริตตี้ในงานมอเตอร์โชว์ หรือนางแบบเซ็กซี่ตามนิตยสารคุณผู้ชายต่างๆ และอัลบั้มภาพส่วนตัวด้วย
เมื่อไม่นานมานี้ “หลินอวิ๋น” ได้เปิดเผยชีวิตส่วนตัวของเธอเองกับสื่อไต้หวันว่า ตัวเองได้ผ่านมีดหมอศัลยกรรมมาแล้วกว่า 10 ครั้ง อีกทั้งเปิดเผยภาพในอดีตก่อนทำและหลังทำ ทั้งเวอร์ชั่นที่หายดีแล้วกับเวอร์ชั่นที่ยังต้องพักฟื้นอยู่ด้วย หากยังจำเธอคนนี้ได้ เมื่อประมาณเดือนสิงหาคมปีนี้ “หลินอวิ๋น” เป็นอีกหนึ่งสาวที่มีข่าวคาวกับแบดบอยคนดังแห่งเกาะฮ่องกงอย่าง “เฉินกว้านซี” ด้วย แต่ก็ไม่ได้มีภาพหลุดอะไรมากมายอย่างนางอื่นๆ จะมีก็เพียงภาพถ่ายคู่กันแบบแนบเนื้อแต่มีเสื้อผ้า ในผับแห่งหนึ่งเท่านั้น
“หลิน อวิ๋น” ยอมรับว่าเรื่องศัลยกรรมสำหรับสาวๆ ในปัจจุบันนั้นถือเป็นเรื่องธรรมดาไปซะแล้ว โดยเฉพาะสาวๆ ในวงการต่างๆ ที่ใช้รูปร่างหน้าตาและเรือนร่างในการทำมาหากิน รูปลักษณะภายนอกจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพียงแต่ไม่มีใครกล้ายอมรับเท่านั้นเอง อาจจะเป็นเพราะกลัวโดนด่า โดนวิพากษ์วิจารณ์นั่นเอง เพราะเรื่องนี้เหมือนเป็นการโกหกกัน ฝืนธรรมชาติ สังคมยังไม่ค่อยยอมรับเท่าที่ควร “หลินอวิ๋น” ยังลงลึกไปในรายละเอียดอีกว่า เธอทำตามาแล้ว 2 ครั้ง ส่วนจมูกนั้นกว่าจะสวยได้รูปถูกใจอย่างที่เห็นก็ทำมาแล้ว 4 ครั้งด้วยกัน ส่วน ปาก ฟัน และลักยิ้ม ก็ทำเหมือนกันหมด ถ้านับครั้งรวมก็ 3 ครั้ง และปทุมถันของเธอจากเดิมคัพ C ก็เพิ่มขนาดขึ้นมาเรื่อยๆ จนเป็นคัพ F อย่างที่เห็นอยู่นี้ด้วยมือหมอศัลยกรรม 2 ครั้ง
หากจะนับระยะเวลาตั้งแต่ 2003 ที่ “หลินอวิ๋น” เริ่มเข้าวงการบันเทิงจนถึงปัจจุบัน ประมาณ 10 ปีแล้ว เธอนั้นผ่านศึกหนัก เสียเลือดเสียเนื้อเพื่อความงามอย่างที่เห็นอยู่นี้มากว่า 10 ครั้งแล้ว ที่ไหนที่เค้าว่าดี มีเทคโนโลยีหรือหมอศัลยกรรมฝีมือดีเธอก็ไปหมด ทั้งในและนอกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นไทยหรือเกาหลี
นอกจากนี้ “หลินอวิ๋น” ยังขอยืดอกคัพ F ยอมรับอีกว่าอันที่จริงแล้วเธอไม่ใช่คนสวย เซ็กซี่ อย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน เป็นแค่สาวหมวยที่ดูธรรมดาๆทั่วๆไป ถึงแม้ว่าอาจจะมีคนด่าว่าเธอที่ไปศัลยกรรมมาก็ตาม แต่เธอก็ไม่แคร์ ขอเชิดใส่ เพราะเธอรู้ดีว่ากำลังทำอะไรอยู่ ที่สำคัญเธอมีความสุขกับรูปร่างหน้าตาในปัจจุบันเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ไม่แน่ใจในอนาคตเหมือนกัน
ขอบคุณที่มา www.siamdara.com