ที่มา: msn

ช่วงพักหลังหลายคนถึงกับแปลกใจ เมื่อนักร้องคนดัง พีท พล นพวิชัย เปลี่ยนลุคใหม่ดูต่างจากเดิมมาก เนื่องจากเมื่อก่อน เขามักจะปรากฏตัวตามสื่อต่างๆ ในลุคเปรี้ยวสุดซ่าส์ ไปออกรายการหาคู่ พร้อมกับประกาศตัวเองว่าเป็นรุก แต่คนแทบไม่เชื่อ

ล่าสุดทำคนฮือฮาอีกครั้ง เมื่อหนุ่ม พีท พล ลุกขึ้นมาแบบบอยๆ ไว้หนวดนิดๆ โชว์กล้ามหน่อยๆ แถมยังตัดผมเกรียนสั้น เหมือนสมัยตอนที่เข้าวงการใหม่ๆ โอ้โห หล่อมากๆ งานนี้หลายคนเริ่มสับสนกันแล้วว่า สรุป พีท พล จะเป็นแบบไหน เมื่อได้มีโอกาสเจอเจ้าตัว เลยได้พูดคุยกัน ซึ่งพีทเองก็บอกว่า เบื่อแต่งหญิงเอาใจคนอื่นแล้ว

หลังๆ เหมือนเห็นพีทกลับมาออกสื่อมากขึ้น? “ก็อยู่ตลอดนะ แต่มันมีละครไง ใครติดต่อมาเราก็ไปกันทั้งนั้นแหละ ตอนนั้นช่วงที่รู้สึกหายจากหน้าจอเพราะไม่มีใครติดต่อไง แต่เราจะมีงานจ้างตลอดอยู่แล้ว” ตอนนี้เราเป็นนักแสดงฟรีแลนซ์รึเปล่า? “ฟรีแลนซ์ครับ เล่น 2 เรื่องครับ คือแรงเงา กับ ความรักครั้งสุดท้าย ครับ”

กลับมาลุยงานละครเต็มที่? “มันก็ไม่เชิง เหมือนพีทกลับมาเล่น คิวปิด แล้วพี่ฉอดเค้าก็ติดต่อมาพอดี เราก็เลยอยากลองดูอีกทีว่าชอบมั้ย แล้วบังเอิญว่าเราเคยทำงานกับกองนี้ ซึ่งการทำงานก็ค่อนข้างต่างกันเนอะ ทางนี้เค้าทำงานแบบทำหนังมากกว่า เค้าจะไม่มีการสวิตช์กล้องต่อ แต่เค้าจะเล่นไปเลย แล้วเราจะรู้สึกว่าเราอิสระกว่า”

งานเพลงล่ะ? “เราก็ยังทำอยู่ ใครเรียกไปแจมเราก็ไป” การที่เรามาเป็นอิสระ แล้วเรื่องความต่อเนื่องของงานที่เข้ามาล่ะ บางคนมองว่า ถ้าอยู่ในสังกัดมันจะมีงานเข้ามาตลอด? “ไม่เสมอไป มันไม่ได้อยู่ที่ความต่อเนื่องเนอะ มันอยู่ที่แรงขับเคลื่อนของเราด้วยแหละ เรามีปาก เราก็พูด เพราะพีทรู้สึกว่า ในสิทธิ์ที่เราควรต้องได้

เราก็ต้องเรียกร้อง คือมันไม่ใช่เรื่องผิดเลย คนอาจจะมองว่าเราเป็นเด็กก้าวร้าว แล้วทำไมเราไม่มองว่า ผู้ใหญ่เก็บไว้ทำไมอะ ถูกมั้ย แต่ว่าก็จะมีกลุ่มคนที่เค้ารับได้กับการทำงานของพีท เรามีความรู้สึกว่า เราเป็นอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไม่ได้รู้สึกต้องเปลี่ยน เราทำงานอยากออกมาให้มันดี นั่นคือจุดประสงค์ของเรา

เราไม่ได้เจตนาอยากทำตัวกร่าง ถ้าคนเข้าใจ มันจะทำงานกันได้ง่าย ส่วนตัวพีทไม่เคยเจอลูกค้าที่มาพูดทีหลังว่าเราทำงานยากเลย อย่างเรื่องความต่อเนื่อง พีทมองว่า ถ้าเราปล่อยเพลงเอง ตอนที่พีทออกมาทำเอง แค่รู้สึกว่า ชอบเพลงอะไรก็แค่ปล่อยออกมาให้คนฟัง ไม่ได้คิดว่ามันจะต้องดัง เราแค่อยากทำในสิ่งที่เราอยากทำ อยากแสดงอารมณ์ความเป็นตัวตนของเราผ่านบทเพลง”

ด้วยความที่เราเป็นคนตรง เวลาเราโพสต์อะไรลงไอจี คนจะมองว่าเราเป็นคนแรง? “พีทไม่แคร์ เพราะพีทรู้สึกว่า คนเราห้ามความรู้สึกคนไม่ได้ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะแสดงความคิดเห็น ทุกคนมีสิทธิ์ทำ ในเมื่อทุกคนทำได้ เราแค่บังเอิญอยู่ในที่แจ้ง มีคนจับตามอง

แต่พีทไม่เคยบอกให้ทุกคนมามองว่าเราเป็นไอดอล เพราะเรารู้สึกว่า เราไม่ใช่คนดีที่จะมาเป็นไอดอลได้ บังเอิญพีทอยู่บนความเป็นจริง ยืนอยู่บนดิน ไม่ได้อยู่บนเมฆ ไม่ได้อยู่บนความฝัน พีทรู้สึกว่าเราเป็นมนุษย์ เรามีกิเลส ความรู้สึก ใครที่มาทำอะไรเรา เราก็แค่ป้องกันตัวเองออกไป”

กำลังจะบอกว่า เราปกป้องสิทธิ์ของตัวเองได้? “เพราะพีทรู้สึกว่า พีทไม่จำเป็นจะต้องเงียบ ก็อย่างที่เห็นมีข่าวเยอะแยะมากมาย สาดกันไปมา ซึ่งทุกคนก็มีสิทธิ์ของเค้า แต่ว่าก็ไม่มีใครผิด เอาจริงๆ กฎหมายก็ไม่ได้คุ้มครองขนาดนั้น”

อย่างเวลามีคนมาคอมเมนต์ในแง่ลบกับเรา ตอบโต้ยังไง? “ต้องดูก่อนว่าเป็นแง่ลบแบบไหน ถ้าเป็นแง่ลบที่เราอ่านแล้วสามารถเอาไปพัฒนาตัวเองได้ เราก็โอเค นอกจากอะไรที่มันดูไร้สาระ มาด่าแม่เล่นๆ ก็ด่ากลับเลย”

เคยโดนคอมเมนต์แรงสุดแบบไหน? “ไม่ค่อยจำนะ บางครั้งคนอ่านใจความของแคปชั่นเราไม่ดี แล้วเหมือนฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียดเนอะ แล้วก็แคปเจอร์มาเขียนด่า แต่เป็นสิ่งที่ไม่ใช่เราเขียน เราก็แค่ตอบกลับไปว่า อ่านใหม่มั้ย แล้วเราก็ลบทิ้งไป พีทเป็นคนที่รู้สึกว่า ถ้าคนที่มาขอโทษเรา เราก็จบ ไม่ติดใจอะไร”

อยู่วงการมากี่ปีแล้ว? “พีทถ่ายโฆษณาตั้งแต่อายุ 13 ปี อยู่วงการมา 18 ปีแล้วครับ” ลุคส์ของเราเปลี่ยนมาตลอด? “ใช่ แล้วแต่อารมณ์” ครั้งแรกที่เคยสัมภาษณ์เรา ก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง? “ตอนนั้นพีทก็จะแต่งตัวแบบแมตช์เสื้อไม่ค่อยดีเฉยๆ คือเป็นคนที่ไม่แฟชั่น ชอบแต่งอะไรง่ายๆ เมื่อก่อนเป็นคนที่หยิบตัวบนอย่างเดียว ซักผ้าเสร็จ แล้วแขวนไว้ตัวบน ก็จะหยิบมาใส่หมด

แล้วมันจะไม่แมตช์กัน ไม่ค่อยใส่ใจอะไร ไม่ช็อปปิ้ง ไม่ซื้อเสื้อผ้า จนมาช่วงมีเพื่อนเยอะๆ ไปซื้อเสื้อผ้า ก็เริ่มแต่งตัวมากขึ้น แล้วเราก็จะรู้สึกว่า สร้างคาแรกเตอร์ขึ้นมา พอคนเห็นก็ชอบ แล้วเราก็ทำสปอยล์คนไปเรื่อยๆ มันรู้สึกเหนื่อย เราก็พอ แค่นั้นเอง”

สร้างคาแรกเตอร์ที่ว่า นั้นยังไง ให้ดูสาวนิดนึงเหรอ? “ไม่ใช่ดูสาวนิดนึง มันเป็นอีกโหมดหนึ่งของเรา อีกคาแรกเตอร์ที่เรารู้สึกว่าเอ็นเตอร์เทนให้กับคน มันคืองาน อย่างที่เคยบอกว่า แสดงบางสิ่ง แต่เป็นจริงในบางอย่าง เพราะฉะนั้นเราถึงจุดหนึ่งที่เรารู้สึกว่าเหนื่อย เพราะพีทไม่เคยดูรายการที่ตัวเองไปออก เราไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำขนาดนั้น ก็เลยรู้สึกพอละเหนื่อย พักก่อน แล้วแต่สถานที่เนอะ”

คนมองว่าเราเป็นสาว เราจะอธิบายว่ายังไง ด้วยความที่คาแรกเตอร์เราดูเป็น? “คือใครจะมองอะไรก็มอง พีทไม่ได้สนใจ เพราะพีทรู้สึกว่า เราห้ามความคิดคนไม่ได้เนอะ พีทไม่ได้มองว่าตัวบุคลิกภาพ เป็นตัวกำหนดเพศสภาพ ถามว่าเราชอบผู้ชายมั้ย เราก็ได้ ผู้หญิงเราก็ไม่ได้มายด์ บางคนอาจจะเข้าใจผิดว่า พีทเปลี่ยนไปชอบผู้หญิง มันไม่ใช่

เราชอบทุกเพศ เพราะเรารู้สึกว่า ทุกเพศมีเสน่ห์ของแต่ละบุคคล เราขึ้นอยู่กับว่า เราคุยกับใคร แล้วเราคลิกเท่านั้นเอง สังคมมันเป็นตัวกำหนดว่า ชายคู่หญิง ชายคู่ชาย หญิงคู่หญิง มันไม่ใช่ คือบางครั้งพีทรู้สึกว่า โลกมันมาไกลแล้วเนอะ แล้วมันพัฒนาไปเรื่อยๆ ประเทศเรากำลังพัฒนาไปอย่างนี้

ซึ่งก็เปิดรับมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังมีกลุ่มที่ไม่เข้าใจตรงนี้ บางครั้งพีทรู้สึกว่าปัญหาของคนเลยคือ ฟังไม่ดี เพราะฉะนั้นต้องเปิดหูให้มากขึ้น ถ้าเปิดหูน้อยแล้วฟังไม่รู้เรื่อง ใจความจะผิด”

เหมือนว่าเรายังไงก็ได้? “พีทไม่ได้ซีเรียส พีทก็คือตัวพีท ไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องกำหนดเพศ เป็นตุ๊ด เป็นเกย์ เป็นทอม เป็นกะเทย มันไม่ใช่ ถ้าวันหนึ่งเราแฮปปี้ที่จะอยู่กับผู้หญิง เราก็อยู่ แค่นั้นเอง”

เราต้องใช้เวลามากน้อยขนาดไหน ถึงจะสตรองได้ขนาดนี้ กว่าจะมาเป็นวันนี้ได้ ที่ไม่แคร์อะไร? “ถามว่าแคร์มั้ย พีทแคร์ พีทจะเลือกแคร์คนที่แคร์เรา เราแคร์ครอบครัว แคร์คนรอบๆ ตัวเรา แคร์คนที่รักเรา แต่ถามว่าเราต้องแคร์คนทั้งโลกมั้ย มันเป็นไปไม่ได้หรอก โฟสกันคนทั้งโลก เป็นบ้าพอดี

ถามว่าใช้เวลานานมั้ยเหรอ ก็ต้องขอบคุณรายการเดอะสตาร์นะ ที่ทำให้พีทแข็งแกร่ง ยุคนั้นต้องเข้าใจนะครับ คนมองเราเป็นจุดอ่อน ช่วงนั้นโดนด่าเยอะมาก ด้วยความที่เราโดนด่ามาก ไม่ได้ทำให้พีทรู้สึกว่า พีทยอมแพ้ เพราะพีทเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้กับการที่คนมาด่า ก่อนหน้าพีทแค่ใช้เวลาช่วงที่พีทมีตั้งแต่จบรายการ พยายามพิสูจน์ให้คนเห็นว่า เราไม่กระจอก

คำด่าทุกคำมันเป็นแรงขับเคลื่อนให้เราพัฒนาตัวเอง เรารู้สึกว่า ถ้าเกิดเป็นคนแล้ว มันไม่มีขีดจำกัด คุณอย่าพูดว่า ฝรั่งเก่ง เราเป็นคนไทย คนไทยก็เป็นคน ฝรั่งก็เป็นคน มันขึ้นอยู่กับความพยายาม ความขยันของคุณ ว่าคุณจะให้กับมันเท่าไร”

แมนๆ มีรอยสัก 

สรุปคือ อยู่ในลุคส์นี้โอเคแล้ว? “ก็แฮปปี้อยู่ ถ่ายละครก่อน พอจบจากละครก็จะโกนหนวดให้มันดูเด็กลงหน่อย เพราะเดี๋ยวนี้ไปขายคาแรกเตอร์ลุงก็ไม่ไหว”

จะไม่กลับเป็นสาวให้คนตกใจแล้วใช่ไหม? “มันก็แล้วแต่อารมณ์ ที่แต่งออกมาพีทไม่ได้แต่งหญิงนะ แค่แต่งออกมาให้เป็นเลเยอร์แค่นั้น ถ้าบอกว่าพีทเป็นสาว แล้วอีกคนไม่ยิ่งกว่าเหรอ ที่แต่งจัดกว่าเรา แหวน 8 อันมันก็ไม่ใช่ป่ะ ก็แล้วแต่คน

คือเอาอย่างนี้ มันอยู่ที่สายตาคน ว่าเค้ามองแล้วรู้สึกยังไง เราบังคับเค้าไม่ได้ พีทไม่เอาอะไรที่ไร้สาระมาใส่ใจ ไม่ใช่ว่าเราไม่แคร์โลก ไม่แคร์สังคม แต่ว่าเราบังคับคนไม่ได้ แค่นั้นเอง ถ้าเราไม่เอามาใส่ใจ ไม่เอามาคิด มันก็โอเคอะ ถ้าคุณคิดจะทำงานอยู่ในวงการ อยู่ในที่แจ้งแล้ว คุณต้องยอมรับสิ่งเหล่านี้”

เรื่องน่าสนใจ