เวลา 12.00 น วันที่ 5 ก.พ. จากกรณีไฟไหม้อาคาร ถนนจันทน์ซอย 11 จนมีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บหลายราย ล่าสุดเจ้าหน้าได้ปิดถนนจันทร์ทั้งเส้น เพื่อให้รถน้ำสามารถเข้ามาดับเพลิงได้สะดวก และกั้น ประชาชน ไม่ให้เข้ามายังจุดเกิดเหตุเนื่องจาก เพลิงได้ไหม้เป็นเวลานาน ทำให้เสี่ยงต่อการพังถล่มลงมาของอาคาร ขณะเดียวกัน ได้มีเฮลิคอปเตอร์จากตำรวจ บินวนรอบพื้นที่ที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบสภาพเพลิงไหม้
ต่อมาเมื่อเวลา 12.10 น. ผู้ว่าฯ กทม. ได้เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ โดยเบื้องต้นทราบว่ามีผู้บาดเจ็บจำนวนหลายราย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปภายในอาคาร และญาติของ นางอังคณา ผู้เสียชีวิต ที่พยายามเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างอยู่ภายใน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบว่ามีผู้ที่ติดค้างอยู่ภายในอีกจำนวนกี่ราย โดยโดนเศษปูน เศษกระจกตกลงมาใส่หัว ลำตัวได้รับบาดเจ็บ นำส่ง รพ. ใกล้เคียง
จากข้อมูลเบื้องต้นถึงเวลา 12.30 น. ผ่านไปกว่า 3 ชั่วโมง เพลิงไม่มีทีท่าว่าจะหยุด โดยได้ลามขึ้นข้างบนชั้น 7 โดยบริเวณด้านหน้า ถนนจันทน์ ซอย 11 ได้มีรถพยาบาล มารออยู่ เพื่อจะช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้
เวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ สามารถน้ำหัวฉีดเข้าไปภายในอาคารได้แล้ว ดับเพลิงจนแสงเพลิงเริ่มหมดไป แต่คงมีกลุ่มควันสีขาว อยู่
นายศรานุชิต งามวิลัย นักผจญเพลิงที่เข้าไปปฏิบัติงานภายในตัวอาคาร เป็นชุดแรก เปิดเผยว่า ขณะนี้สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว จากนี้ให้เจ้าหน้ากู้ภัย เข้าไปภายใน เพื่อตรวจสอบผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตภายในอาคาร ขณะนี้พบว่าโครงสร้างของตัวอาคารเกิดรอยร้าวเกิดจากผนังกำแพงที่เกิดจากเพลิงไหม้
ขณะเดียวกันภายในไม่มีสปริงเกอร์ดับเพลิง ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว อาคารเกิดรอยร้าวและคาดว่าจะทรุดตัวลง จนท.ได้กั้นประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในที่เกิดเหตุ นื่องจากกลัวว่าอาคารมีความชุ่มน้ำ จะถล่มพังลงมา เจ้าหน้าที่ได้กันพื้นที่บริเวณโดยรอบของอาคาร เป็นพื้นที่เขตอันตรายห้ามเข้าเด็ดขาด
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบด้านในตัวอาคารได้ เนื่องจากภายในอาคารยังมีความร้อนอยู่ เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ตัวอาคารจะถล่มลงมาได้ เจ้าหน้าที่ได้สอบถามกับเจ้าของอาคาร ว่ามีอาศัยกี่คนและสูญหายกี่คน ขณะเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตแล้วจำนวน 1 ราย คือ นางอังคณา และมีผู้บาดเจ็บที่เป็นเจ้าหน้าที่เข้าไปภายในและญาติๆ จำนวน 4 ราย ที่กระโดดหนีไฟลงมาจากอาคาร
ล่าสุดเพลิงสงบลงแล้ว โดยใช้เวลาดับ 3 ชั่วโมง ควบคุมเพลิงได้ ขณะที่บริเวณใกล้เคียงปากซอยนราธิวาส 18 เป็นที่ตั้งของ โรงเรียนอนุบาลมณีรัตน์ มีนักเรียนอายุตั้งแต่ 2 ถึง 6 ขวบ จำนวน 350 คน ขณะเกิดเหตุทางอาจารย์ ได้ทำการช่วยเหลือ โดยให้มารวมตัวที่บริเวณลานจอดรถ ใกล้ ซ.นราธิวาส 20 พร้อมแจ้งให้ผู้ปกครองทราบ
