ที่มา: Thairath Online

หัวอกของคนเป็นแม่ ที่ทำทุกอย่างเพื่อรักษาลูกชายคนเดียววัย 9 ขวบให้หายจากอาการป่วย ถึงขั้นพากันไปอยู่ที่สำนักสงฆ์นอนในโลงทุกวันโกนและวันพระเพื่อให้หายจากการคลุ้มคลั่ง หลังจากอยู่ดีๆ ก็ชักเกร็ง ฟื้นขึ้นมาจำอะไรไม่ได้ หูหนวก ตาบอด 

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 ส.ค. 58 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ที่พักสงฆ์พรมรังศรี เลขที่ 149 ม.2 ต.น้ำพุ อ.เมือง จ.ราชบุรี มีเด็กชายวัย 9 ขวบ ป่วยเป็นโรคประหลาด มีอาการคลุ้มคลั่ง พูดจาไม่รู้เรื่อง ในช่วงวันโกนและวันพระ ต้องมาอาศัยพระที่สำนักสงฆ์ช่วยรักษาด้วยการนอนในโลงศพระงับอาการ จนมีคนที่เข้าไปทำบุญนำมาโพสต์ในโซเชียล ขอความช่วยเหลือ จึงได้เข้าไปตรวจสอบ

130

ที่บริเวณศาลาของสำนักสงฆ์ ได้พบกับ ด.ช.เอ นามสมมุติ อายุ 9 ขวบ นั่งสายตาเหม่อลอย พร่ำพูดพร้อมกับร้องไห้ตลอดเวลา โดยมี นางลัดดา โชติวิเชียร อายุ 49 ปี ผู้เป็นแม่ และนายวันชัย ธรรมสวัสดิ์ อายุ 50 ปี พ่อคอยประคองร่างดูแลอยู่ไม่ห่าง เนื่องจากเด็กชายดวงตามองไม่เห็น หูไม่ได้ยิน ร่างกายอ่อนแรง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้

นางลัดดา โชติวิเชียร แม่ของ ด.ช.เอ เผยทั้งน้ำตาว่า ตนเองมีลูกชายคนเดียวคือ ด.ช.เอ ซึ่งเกิดมาเป็นเด็กปกติ ไม่ได้มีอาการป่วยใดๆ เป็นเด็กน่ารัก ฉลาด พูดเก่ง กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.3 โรงเรียนวัดอัมรินทราราม ต.โคกหม้อ อ.เมืองราชบุรี กระทั่งเมื่อวันที่ 1 ก.พ.58 ที่ผ่านมา ลูกชายได้ไปตัดผมที่ร้านแถวบ้าน ขณะที่กำลังนั่งรอได้เกิดอาการชักเกร็ง จึงรีบนำลูกส่งโรงพยาบาลราชบุรี โดยต้องเข้าห้องไอซียูนอนรักษาตัวอยู่ประมาณ 2 สัปดาห์ พอฟื้นขึ้นมาก็จำใครไม่ได้ ตาก็มองไม่เห็น หูไม่ได้ยินเสียง แขนขาอ่อนแรง เดินหรือยืนเองไม่ได้

131

หลังจากแพทย์ตรวจแล้วบอกว่าลูกชายป่วยเป็นโรคสมัยใหม่ ไม่มีทางรักษา ให้เพียงยากันชักกลับมากินที่บ้าน ต่อมาได้ไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลจุฬาฯ แต่แพทย์ก็เพียงตรวจแล้วลงความเห็นว่าลูกชายสมองฝ่อ ให้กลับบ้านโดยให้ยามากิน ตนเองต้องเดินทางไปรับยามาให้ลูกชายกินทุกเดือน อาการของลูกก็ยังไม่ดีขึ้น ตนและนายวันชัยผู้เป็นสามีไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อได้รับการแนะนำจากคนรู้จักว่าให้นำลูกชายมาให้ พระอาจารย์บุญยง อภิลาโส เจ้าสำนักสงฆ์พรมรังศรี ช่วยรักษาด้วยการนำลูกนอนในโลงศพเข้าพิธีสวดมนต์ตามความเชื่อ ปรากฏว่า ลูกชายมีอาการดีขึ้นและสงบลง ขณะที่สามีตกงาน ตนก็ฐานะยากจน ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาเป็นค่าใช้จ่ายประจำวัน

“ตอนนี้ไม่รู้จะทำอย่างไร ต้องพากันออกจากบ้านมาอาศัยอยู่ที่พักสงฆ์ โดยได้รับความเมตตาจากหลวงพ่อและผู้ที่มาทำบุญที่วัดคอยบริจาคอาหารและเงินค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งก็หวังเพียงจะมีผู้ใจบุญช่วยเหลือให้ลูกได้รับการดูแลรักษาจนหายเป็นปกติ และกลับมาเรียนหนังสือได้เหมือนเดิมเท่านั้น” นางลัดดา ผู้เป็นแม่กล่าวอย่างน่าสงสาร 

132

ทางด้านพระอาจารย์บุญยง อภิลาโส เจ้าสำนักสงฆ์พรมรังศรี กล่าวว่า เมื่อเห็นอาการของ ด.ช.เอ ก็รู้สึกสงสาร และเชื่อว่ายังสามารถรักษาอาการป่วยทางวิทยาศาสตร์ได้ เพียงแต่ตอนนี้ต้องเยียวยาด้านจิตใจของเด็กให้พ้นจากวิบากกรรมที่เกิดจากเจ้ากรรมนายเวรหรือสิ่งที่มองไม่เห็นตามความเชื่อ และหลักทางพระพุทธศาสนาก่อน เมื่ออาการดีขึ้นกว่านี้ จึงค่อยนำน้องตะวันไปรักษาตัวต่อไป สำหรับผู้ที่จะให้ความช่วยเหลือ ติดต่อได้ที่ นางลัดดา โทร 089-4138165

เรื่องน่าสนใจ