เทศบาลแสนสุขเตือนปชช.อย่าเพิ่งลงเล่นน้ำชายหาดบางแสน หลังเกิดปรากฏการณ์แพลงก์ตอนบลูมครั้งที่ 5 ในรอบปี
วันนี้ (3 ก.ย. 58) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชายหาดบางแสน น้ำทะเลกลายเป็นสีเขียวอีกครั้ง เนื่องจากเกิดปรากฏการณ์แพลงก์ตอนบลูมครั้งที่ 5 ในรอบปี 2558 ส่งผลให้สัตว์ทะเลตายจำนวนมาก และเริ่มส่งกลิ่นเน่าเหม็นตลอดชายหาด นอกจากนี้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบชายหาดบางแสนเริ่มได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน แต่ชาวบ้านบางส่วนได้ลงไปจับสัตว์น้ำที่ตายเกลื่อนชายหาดกันอย่างคึกคัก
นางสำอาง พลเยี่ยม ชาวตำบลแสนสุข จ.ชลบุรี กล่าวว่า ปกติชายหาดบางแสนจะเกิดแพลงก์ตอนบลูม หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ขี้ปลาวาฬ” ในทุกๆ ปี เพียงแค่ 2 – 3 วันก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ปีนี้เกิดขึ้นถึง 5 ครั้งแล้ว แต่ละช่วงก็ยาวนานกว่าปกติ ทำให้นักท่องเที่ยวลดน้อยลง ผู้อาศัยอยู่รอบชายหาด และผู้ประกอบการก็ได้รับผลกระทบตามไปด้วย
ด้านนายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข ได้ประกาศเตือนประชาชน และนักท่องเที่ยว อย่าเพิ่งลงเล่นน้ำทะเลชายหาดบางแสนในช่วงนี้ เนื่องจากแพลงก์ตอนบลูมยังไม่หมดไป พร้อมสั่งเจ้าหน้าที่เร่งเก็บซากสัตว์ที่ตายลอยเกลื่อนชายหาด โดยระดมเทศกิจพนักงานทำความสะอาดเก็บซากสัตว์ และขยะกันตั้งแต่เช้ามืดที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่หมด เพราะเศษขยะจะลอยเข้ามาเป็นระยะๆ คาดว่าจะกลับสู่ภาวะปกติเร็วๆนี้
ขณะที่ดร.เสาวภา สวัสดิ์พีระ ผู้อำนวยการสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา เปิดเผยว่า ปรากฏการณ์ธรรมชาติน้ำทะเลเปลี่ยนสีในครั้งนี้ ถือว่ารุนแรงมากกว่าปีที่ผ่านมา สาเหตุน่าจะมาจากเมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา ฝนตกอย่างหนักในพื้นที่ชายหาดบางแสน และทะเลข้างเคียง พอฝนหยุดตก แสงแดดร้อนแรง ทำให้แพลงก์ตอนโตเร็วมาก
พอเช้าวันที่ 2 ก.ย.เมื่อวานนี้ ก็เกิดปรากฎการณ์แพลงก์ตอนชนิดเรืองแสงสีเขียว เป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำในทะเล เพราะมีการขยายตัวได้เร็ว โดยเฉพาะเมื่อถูกแสงอาทิตย์ พอหมดแสงเมื่อไร จะแย่งออกซิเจนในน้ำ ทำให้พืชและสัตว์เล็กหน้าดินตายเพราะขาดอากาศหายใจ จึงขอเตือนประชาชนที่เก็บปลาตาย ไปหมักหรือปลาร้า เพราะมีอันตราย เนื่องจากซากปลาเหล่านี้ มีเชื้อแบคทีเรียที่เสี่ยงต่ออาหารเป็นพิษ
