อกเล็กอยากใหญ่ มักเป็นปัญหาของคนทั่วไป มากกว่าอาการอกใหญ่อยากเล็ก ศัลยกรรมเพิ่มขนาดทรวงอก จึงเป็นศัลยกรรมความงามยอดฮิต ที่คนนิยมทํากันมาก เรียกว่าเป็นอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ เพราะผู้หญิง และสาวประเภทสองส่วนมาก ล้วนอยากมีขนาดหน้าอกที่สวยงาม เต่งตึง กระชับได้รูป ส่วนจะ Up Size ให้ใหญ่ขนาดไหนนั้น ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละคน

 

อกเล็กอยากใหญ่
ภาพจาก peterfishermd.com

 

อกเล็กอยากใหญ่ ให้ระวัง “ภาวะการเกิดพังผืดหดรัด”

อย่างที่ทราบกันดีว่า การผ่าตัดศัลยกรรมทุกอย่างนั้นมีความเสี่ยง แม้จะทําโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ และความชํานาญสูงขนาดไหน เพราะผลข้างเคียงจากการทําศัลยกรรม บางครั้งก็อยู่เหนือการควบคุมของแพทย์ การผ่าตัดเสริมขนาดทรวงอกก็เช่นเดียวกันค่ะ วิธีการที่แพทย์ศัลยกรรมความงามส่วนใหญ่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย นั่นก็คือการเสริมด้วยซิลิโคนเจล (Silicone Gel) ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวก ง่าย เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน และรวดเร็ว

ผลข้างเคียงจากการเสริมด้วยวิธีนี้ มีอะไรบ้าง?

  • การเกิดพังพืดหดรัด
  • มีรอยยับไม่เรียบบริเวณเต้านม
  • เกิดการรั่วซึมของเนื้อซิลิโคนเจลในเนื้อเยื่อ

สําหรับคอนเทนท์นี้ เราจะพูดถึงภาวะความเสี่ยงในการทําศัลยกรรมเสริมขนาดทรวงอกที่พบได้บ่อย นั่นก็คือ ภาวะการเกิดพังผืดหดรัด Capsular Contracture เพื่อให้สาวๆ ได้พึงระวังก่อนตัดสินใจ ว่าภาวะนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร และจะมีความรุนแรงขนาดไหน 

 

อกเล็กอยากใหญ่
ภาพจาก thekarriclinic.co.uk

 

Capsular Contracture เกิดขึ้นได้อย่างไร?
เมื่อมีการใส่ถุงซิลิโคนเจลเข้าไปในร่างกาย ร่างกายจะมีการสร้างพังผืดมาห่อหุ้มบริเวณโดยรอบ มีลักษณะเหมือนแคปซูล แยกเป็นถุงที่อยู่ภายในกับเนื้อเยื่อที่อยู่ภายนอก เป็นกลไกในการป้องกันสิ่งแปลกปลอมและสารที่เข้าสู่ร่างกาย โดยจะสร้างพังผืดมาล้อมรอบสิ่งแปลกปลอมนั้นไว้ ดังนั้น ถุงซิลิโคนเจลจะถูกล้อมรอบไปด้วยพังผืดนั่นเอง

อกเล็กอยากใหญ่
ภาพจาก theplasticsurgerychannel.com

 

หลังการผ่าตัด ถ้าพังผืดมีขนาดใหญ่กว่าถุงเต้านม เต้านมก็จะนิ่ม และมีรูปร่างที่เป็นธรรมชาติ แต่ถ้าพังพืดมีการหดรัด หดตัว และมีความหนาเพิ่มขึ้น ก็จะทําให้เต้านมเริ่มมีลักษณะเป็นก้อนแข็ง หรือหากพังผืดหดตัวมากขึ้น อาจจะทําให้มีลักษณะเป็นก้อนแข็ง ผิดรูป ไม่เป็นธรรมชาติไปเลยก็มี อาการพังผืดหดรัด เป็นอาการข้างเคียงที่พบได้มากที่สุดของการผ่าตัดเสริมหน้าอก สามารถเกิดเมื่อไหร่ก็ได้หลังผ่าตัด แต่โดยทั่วไป ถ้าได้เป็นแล้ว มักจะเกิดภายใน 1 ปี หรือเร็วสุด 1-2 เดือน เมื่อเกิดการหดรัด แคปซูลก็จะหดตัวลง และรัดถุงซิลิโคนเจล ทําให้เต้านมมีรูปร่างผิดปกติ มีผลให้เวลาคลำหน้าอก จะแข็งขึ้น และอาจทําให้รูปร่างของถุงซิลิโคนเจลบิดเบี้ยวผิดปกติไปด้วย ยิ่งถ้ามีการหดรัดมากขึ้น พังผืดจะมีลักษณะเป็นก้อนแข็ง จนเห็นได้ชัดเจนจากภายนอก แม้ไม่ได้สัมผัส

ปัจจัยที่ก่อให้เกิดพังผืด

  • การปนเปื้อนของเชื้อโรคบริเวณผิวของถุงซิลิโคนเจล จนทําให้เกิดการอักเสบ และมีการเกิดพังผืดตามมา
  • ตําแหน่งวางถุงซิลิโคนไว้เหนือกล้ามเนื้อ จะมีโอกาสเกิดพังผืดมากกว่าใต้กล้ามเนื้อ
  • ถ้ามีการติดเชื้อหลังผ่าตัด โอกาสเกิดพังผืดหดรัดจะมีมากกว่า

 

อกเล็กอยากใหญ่
ภาพจาก kevinbrennermd.com
  • ในคนที่หลังผ่าตัด มีน้ำเหลืองคั่งมาก ก็จะมีโอกาสเกิดพังผืดหดรัดได้มาก
  • ภาวะเลือดคั่ง ทําให้เกิดการอักเสบ และเกิดพังผืดตามมา
  • การสูบบุหรี่ทําให้แผลหายช้า และเกิดการอักเสบรอบๆ ถุงเต้านม
  • ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

ระดับของการเกิดพังผืดในการเสริมหน้าอก
มี 4 ระดับ (Baker Classification)

  • ระดับที่ 1
    เต้านมยังคงนิ่ม และดูเป็นธรรมชาติตามปกติ
  • ระดับที่ 2
    เต้านมแข็งขึ้นเล็กน้อย แต่ยังดูเป็นธรรมชาติ
อกเล็กอยากใหญ่
ภาพจาก deskgram.net
  • ระดับที่ 3
    เต้านมแข็งขึ้น และเริ่มมีรูปร่างผิดปกติ
  • ระดับที่ 4
    เต้านมแข็ง และรูปร่างผิดปกติชัดเจน

การแก้ไขพังพืดหดรัด 

  • การนวดภายนอกเพื่อแก้ไขพังผืด (Closed Capsulotomy)
    เป็นการบีบเต้านมอย่างแรง เพื่อให้พังผืดมีการฉีกขาด และมีช่องว่างเพิ่มขึ้น วิธีการนี้ ทําโดยไม่ฉีดยาชาและมีความเจ็บปวดมาก ในปัจจุบันไม่แนะนําให้ทํา เนื่องจากผลการรักษาได้ผลไม่ค่อยดีนัก
อกเล็กอยากใหญ่
ภาพจาก Dr. Kenneth Hughes, MD
  • ผ่าตัดแก้ไขพังผืด (OpenedCapsulotomy)
    โดยจะทําการผ่าตัดเข้าไปในแคปซูล และเปิดขยายช่องโดยผ่านพังผืดเดิมในช่องว่างให้กว้างขึ้น แต่ไม่ได้ผ่าตัดเอาเนื้อพังผืดออก การผ่าตัดทําโดยเปิดแผลผ่านแผลใต้ราวนม หรือปานนมจะง่ายที่สุด บางครั้งอาจทําโดยการเปิดแผลที่รักแร้ได้ แต่ค่อนข้างยาก และต้องใช้กล้องผ่าตัดร่วมด้วย

 

  • การผ่าตัดเพื่อเลาะพังผืดออก (OpenCapsuleetomy)
    เป็นการผ่าตัดที่ได้ผลดีที่สุด แต่ใช้เวลาค่อนข้างนาน และยุ่งยากกว่าวิธีที่ 2 ถ้าเอาพังผืดออกแล้วใส่ถุงซิลิโคนเจลเข้าไปใหม่ ก็อาจจะเกิดพังผืดใหม่รอบๆ ถุงใหม่ที่ใส่เข้าไปได้เช่นกัน

…………………………………………………………………….

ในการทําศัลยกรรมความงาม แพทย์ควรมีความรู้ด้านศัลยกรรมทั่วๆ ไป และยังต้องมีประสบการณ์ มีการฝึกฝน เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีในด้านความงาม การผ่าตัดทําศัลยกรรม มีโอกาสเกิดอาการแทรกซ้อนได้ทุกๆ เวลา และเมื่อเกิดขึ้นแล้ว แพทย์ต้องสามารถควบคุมดูแลรักษาให้ได้มากที่สุด สําหรับเราเอง ก็ควรปฏิบัติตนตามคําแนะนําของแพทย์อย่างเคร่งครัด ทั้งก่อนและหลังการผ่าตัด และแพทย์ควรมีการตรวจสอบติดตามผลการรักษาคนไข้อย่างสม่ำเสมอ

 

เนื้อหาโดย Dodeden.com

เรื่องน่าสนใจ