ที่มา: dodeden

ภก.พิพัฒน์  นิยมการ รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้เป็นช่วงที่ฝนตกชุก ส่งผลให้เชื้อโรคต่างๆ เติบโต และคุกคามสุขภาพได้ ประกอบด้วย โรคติดต่อทางระบบทางเดินอาหาร 

ได้แก่ โรคอุจจาระร่วง ไทฟอยด์ อาหารเป็นพิษ รวมทั้งตับอักเสบ โรคกลุ่มนี้มีวิธีการที่จะป้องกันง่ายๆ คือ กินร้อน  ช้อนกลาง ล้างมือ  โรคติดต่อทางระบบการหายใจ ได้แก่ โรคไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่

1a4fdbde3b4cdf1beb77cf5496301f04

การป้องกันคือการทานอาหารอ่อนๆ ดื่มน้ำอุ่นๆ และพักผ่อนมากๆ แยกตัวออกจากคนในครอบครัว ไม่ใช้ของร่วมกัน ป้องกันไม่ให้ติดต่อเด็ก และคนชรา

หากมีอาการ คัดจมูก ตัวร้อน ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ให้รับประทานยาตามอาการ เช่น ยาแก้ปวดลดไข้พาราเซตามอล ภายใน 1-2 วัน หากอาการไม่ดีขึ้นก็ควรไปพบแพทย์  

เมื่อตรวจพบว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ ก็ไม่ต้องกังวล เพราะมียาจีพีโอ เอ ฟลู ซึ่งองค์การเภสัชกรรมเป็นผู้ผลิตรับประทานต่อเนื่อง 5 วันก็หายขาด โดยยาดังกล่าวได้กระจายไปยังโรงพยาบาลทุกแห่งทั่วประเทศแล้ว ผู้ป่วยสามารถเข้ารับการรักษาโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

รองผู้อำนวยการฯ กล่าวต่อไปว่า สำหรับโรคที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ คือโรคปอดบวม ซึ่งสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบให้องค์การเภสัชกรรม จัดวัคซีนสำหรับป้องกันไข้หวัดใหญ่ ฉีดให้กับเด็กและผู้สูงวัย บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เพื่อให้กลุ่มดังกล่าวที่เป็นกลุ่มเสี่ยงมีภูมิต้านทานที่ดี ไม่เสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนแล้ว

image

สำหรับโรคปอดบวม เป็นอีกสาเหตุการตายอันดับหนึ่งอีกโรค ซึ่งผู้ที่สงสัยว่าจะเป็นโรคปอดบวม จะมีไข้ ไอ หอบ ควรพบแพทย์ทันที ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง

เมื่อแพทย์ตรวจแล้วพบการหายใจที่ผิดปกติอาจต้องเอ็กซเรย์ซ้ำ เพื่อหาสาเหตุ และวินิจฉัยว่ามีอาการมากน้อยเพียงใด เกิดจากเชื้อโรคตัวใด โรคปอดบวมสามารถรักษาให้หายได้ แต่ผู้ป่วยบางรายอาจมีเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย ก็จะเป็นโรคปอดบวมจากแบคทีเรียซึ่งต้องใช้ยาปฏิชีวนะตามที่แพทย์สั่งเท่านั้น     

นอกจากนี้ยังมีโรคกลุ่มเชื้อที่เข้าทางผิวหนัง ได้แก่ เชื้อเลปโตสไปโรซีสซึ่งทำให้เกิดโรคฉี่หนู ป้องกันโดยสวมถุงมือ รองเท้าบูธเวลาลุยน้ำ นอกจากนี้ยังมีโรคที่มีสาเหตุมาจากยุงลาย

ได้แก่ ไข้เลือดออก ซึ่งอาการในเบื้องต้นจะคล้ายๆ โรคไข้หวัดใหญ่  เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส ผู้ป่วยจะมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว มีน้ำมูก มีไข้อยู่ 3-5 วัน หากได้รับเชื้อก็มีโอกาสเป็นโรคไข้เลือดออกได้

ดังนั้นจึงควรเฝ้าระวังหากผิดปกติควรพบแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยข้อควรระวังสำหรับคนที่เป็นโรคไข้เลือดออก ไม่ควรรับประทานยาแอสไพริน

เนื่องจากผลข้างเคียงของยาแอสไพรินจะไประคายเยื่อบุกระเพาะอาหารหรือทางเดินอาหาร การระคายเคืองอาจทำให้มีเลือดออกในกระเพาะอาหารเลือดจะออกมากไม่หยุด ทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ป่วยถึงแก่ชีวิตได้

ดังนั้นจึงควรป้องกันโดยกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำ นอนกางมุ้ง ใช้ผลิตภัณฑ์ทากันยุง โดยขอให้เลือกใช้ยาทากันยุงชนิดที่ไม่มีผลอันตรายกับเด็กและหญิงมีครรภ์ ”

รองผู้อำนวยการฯ กล่าวอีกว่า วิธีป้องกันไม่ให้เกิดโรคติดต่อในฤดูฝน คือ ต้องรักษาร่างกายให้อบอุ่น หากมีเหตุจำเป็นให้เปียกฝน ต้องรีบอาบน้ำสระผมเช็ดตัว และผมให้แห้ง ใส่เสื้อผ้าให้อบอุ่น ปฏิบัติตนให้ถูกสุขลักษณะ ได้แก่ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ให้เป็นนิสัยเพื่อป้องกันโรคต่างๆ ที่พร้อมจะเข้ามาในขณะที่ร่างกายอ่อนแอ

สำหรับผู้ที่อยู่ระหว่างเดินทางไปต่างจังหวัด ไม่สะดวกในการล้างมือ อาจใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือแทนการล้างมือด้วยน้ำ หากรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวไม่สบาย ให้ดื่มน้ำมากๆ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ยังไม่จำเป็นต้องใช้ยา การรับประทานยา

เช่น ยาแก้ปวดลดไข้ ลดน้ำมูก แก้คัดจมูก ช่วยในการบรรเทาอาการเท่านั้น ต้องรักษาต้นเหตุด้วยการดื่มน้ำมากๆ และนอนพักผ่อนให้เพียงพอ ช่วยให้ภูมิต้านทานของร่างกายดีขึ้น สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้และหายป่วยในที่สุด

เครดิตภาพจาก จส.100

เรื่องน่าสนใจ