ที่มา: เว็บไซต์เรื่องเล่าเช้านี้

โรคกลัวอ้วนหรือ อะนอเร็กเซีย (Anorexia) ภาวะที่บุคคลปฏิเสธที่จะรับประทานอาหารเพื่อคงน้ำหนักไว้ในระดับปกติ โดยมีทัศนคติที่ผิดต่อรูปร่างและน้ำหนักตัว มักเกิดกับผู้มีอาชีพที่ต้องใช้ รูปร่างที่ผอมบาง โรคนี้ถือเป็นความผิดปกติทางจิตใจชนิด หนึ่ง โดยมีความเชื่อผิดเกี่ยวกับน้ำหนักและรูปร่างตัวเอง บางคนยังเชื่อว่า น้ำหนักมากเกินไป ทั้งๆ ที่ความจริงอยู่ในขั้นผอมแห้ง

1ภาพจาก www.mirror.co.uk

Beth Cowan สาวชาวอังกฤษวัย 19 ปี อดีต สาวป่วยอะนอเร็กเซีย (Anorexia) หรือผู้ป่วยโรคกลัวอ้วนอย่างรุนแรง หลังสามารถกลับตัวได้และฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาแข็งแรงดังเดิม ครั้งหนึ่งเคยเป็นเจ้าของน้ำหนักตัวไม่ถึง 40 กิโลกรัม ใช้ชีวิตด้วยการทานเพียงแอลเปิ้ลประทังความหิว และออกกำลังกายอย่างหนัก เพื่อให้หุ่นผอมเพรียวตามที่ตัวเองต้องการ

จนค่า BMI  หรือ ดัชนีมวลกาย ต่ำเพียง 13.2 ต่างจากเกณฑ์ปกติแบบไม่เห็นฝุ่น แต่ในปัจจุบันเธอสามารถเอาชนะความกลัวที่ใจเธอสร้างเองและตั้งใจจะแบ่งปันประสบการณ์อันเลวร้ายที่ผ่านมาของตัวเองให้คนอื่นได้ตระหนกถึงอันตรายของพฤติรรรมการกินที่ไม่เหมาะสม โดยหวังว่ามันจะช่วยให้คนที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันก้าวผ่านมันไปได้

2ภาพจาก www.mirror.co.uk

อดีตสาวคลั่งผอม เปิดใจว่า เธอเริ่มจำกัดการทานอาหารตอนอายุได้ 16 ปี หรือเมื่อ 3 ปีที่แล้ว โดยทานแต่แอปเปิ้ลและออกวิ่งบนลู่อย่างหนักเพื่อผลาญไขมัน เพราะเมื่อไหร่ที่เธอเห็นตัวเองในกระจก ก็จะมักวิตกอยู่เสมอว่าตัวเธออ้วน จนในที่สุดเธอก็ตัดสินใจไปหาหมอ หลังมีคนทักว่าเธอมีสภาพเหมือนคนใกล้ตาย ตอนนั้นเธอรู้แต่เพียงว่าต้องทำอะไรสักอย่างให้พ้นไปจากสภาพที่เป็นอยู่ เพราะความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นทำลายชีวิตของเธอจนพัง เธอไม่ได้ไปเรียนเป็นเวลานาน จนต้องจ้างครูมาสอนพิเศษที่บ้าน

3ภาพจาก www.mirror.co.uk

Beth เปิดใจอีกด้วยว่า แม่ของเธอถึงกับร้องไห้ขอร้องเธอให้หยุดทำร้ายตัวเอง แต่เธอก็รับปากไปส่งๆ ว่าจะเริ่มต้นพรุ่งนี้ แต่พรุ่งนี้ก็ไม่เคยมาถึงสักที เพราะเธอโกหกทั้งพ่อแม่และตัวเองไปพร้อมๆ กัน ก่อนที่โรงพยาบาลจะเป็นผู้ฉุดเธอให้หลุดพ้นจากสภาพอันน่าอนาถใจและกลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง หลังเข้าใกล้ความตายจากน้ำหนักตัวที่น้อยมากจนน่ากลัว ซึ่งเป็นผลมาจากอาการป่วยอะนอเร็กเซียและโรคบูลิเมีย ขณะที่ตอนนี้เธอหนัก 51 กิโลกรัม มีอาการดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับอดีต และก็ยังอยากจะมีน้ำหนักมากกว่านี้อีกด้วย

4ภาพจาก www.mirror.co.uk

 

อดีตสาวป่วยโรคกลัวอ้วนกล่าวทิ้งท้ายอีกด้วยว่า เธออยากบอกผู้หญิงทุกคนว่าที่สุดแล้วน้ำหนักตัวไม่ได้สำคัญมากไปกว่าการมีสุขภาพที่ดี และเธอคงไม่ได้มีลมหายใจอยู่ถึงตอนนี้เลยหากกลับตัวไม่ทัน

เรื่องน่าสนใจ