อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เผยผลการลงพื้นที่ตรวจคลินิกย่านสนามบินน้ำ หลังมีการร้องเรียนเหตุเสียชีวิตจากการรับบริการเสริมหน้าอก ไร้เงาทั้งแพทย์ผู้ดำเนินการและผู้ให้บริการ เวชระเบียน และอุปกรณ์ช่วยชีวิต เบื้องต้นเตรียมแจ้งข้อหาการกระทำผิดกฎหมายสถานพยาบาล 3 ข้อหา พร้อมร่อนหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาให้ถ้อยคำ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย จากกรณี ที่มีการร้องเรียนมาที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ให้ตรวจสอบคลินิกแห่งหนึ่ง ย่านสนามบินน้ำ จังหวัดนนทบุรี หลังหญิงสาววัย 21 ปี เข้ารับบริการศัลยกรรมเสริมหน้าอกและเกิดอาการช็อกจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยแพทย์อ้างว่าผู้รับบริการเสียชีวิตเองทั้งที่ยังไม่ได้ลงมือผ่าตัดนั้น

 

อธิบดีกรม สบส

 

นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) เปิดเผยความคืบหน้าว่า เมื่อกรม สบส.ได้รับการร้องเรียนเหตุดังกล่าว ตนก็ได้มอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่ของกองกฎหมาย และศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพที่ 4 กรม สบส.เร่งประสานงานกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นนทบุรี เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง ณ คลินิกดังกล่าว ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน จนถึงปัจจุบันได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบคลินิกแล้ว 4 ครั้ง แต่ไม่เคยพบตัวแพทย์ผู้ดำเนินการและแพทย์ผู้ให้บริการสักครั้ง พบเพียงเจ้าหน้าที่ประจำคลินิก โดยจากการตรวจสอบเพิ่มเติมก็ไม่พบเวชระเบียน ชุดช่วยชีวิตฉุกเฉิน เตียงตรวจโรคมีการวางสิ่งของระเกะระกะจนไม่สามารถใช้งานได้ มีการเปลี่ยนแปลงสภาพห้องผ่าตัดโดยไม่ได้รับอนุญาต อีกทั้งมีการโฆษณาคลินิกผ่านสื่อโซเชียลมีเดียโดยไม่ได้รับอนุมัติ และมีการโฆษณาในลักษณะที่เป็นเท็จ พนักงานเจ้าหน้าที่ฯจึงได้ทำการเก็บรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินการเอาผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 กับผู้ได้รับอนุญาตและผู้ดำเนินการ ในเบื้องต้น 3 ข้อหา ประกอบด้วย 1.ไม่จัดให้มีเครื่องมือ เครื่องใช้ ยา และเวชภัณฑ์ที่จำเป็นประจำสถานพยาบาล ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.ดัดแปลงอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และ 3.โฆษณาคลินิกเพื่อประโยชน์ทางการค้า โดยไม่ได้รับอนุมัติและโฆษณาเป็นเท็จ โอ้อวดเกินจริง หรือน่าจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับการประกอบกิจการของสถานพยาบาล ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาทนับแต่วันที่ฝ่าฝืนคำสั่งที่ให้ระงับการโฆษณาหรือประกาศ ทั้งนี้ จนกว่าจะระงับการโฆษณาหรือประกาศดังกล่าว

ด้านทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวต่อว่า ในขั้นตอนต่อไป เพื่อเร่งไขข้อเท็จจริง ให้เกิดความกระจ่างถึงสาเหตุการเสียชีวิต ว่า กรม สบส.จะมีการส่งหนังสือเรียกตัวแพทย์ผู้ดำเนินการและผู้ให้บริการ มาให้ถ้อยคำที่กรม สบส.ว่าในขณะที่เกิดเหตุนั้นผู้ให้บริการเสริมความงามเป็นแพทย์จริง และมีการให้ความช่วยเหลือผู้เสียชีวิตตามมาตรฐานวิชาชีพหรือไม่อย่างไร ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากบริการทางการแพทย์ของโรงพยาบาลเอกชน/คลินิก ในพื้นที่กรุงเทพฯ สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน กรม สบส. 1426 แต่หากอยู่ในส่วนภูมิภาคก็สามารถแจ้งได้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายต่อไป

 

สนใจหาข้อมูลและปรึกษาศัลยกรรมได้ที่นี่

โดดเด่น
ศัลยกรรม
webdodeden

 

เรื่องน่าสนใจ