เจ้าของบริการอนเซ็นหลายแห่งในญี่ปุ่นเริ่มอนุญาตให้ผู้มีรอยสักเข้าใช้บริการ แต่ต้องใช้สติกเกอร์แปะปกปิดรอยสักเอาไว้ตลอดเวลาที่อยู่ในอนเซ็น
ญี่ปุ่นกับรอยสักถือเป็นของคู่กัน ในโลกของรอยสัก รอยสักแบบญี่ปุ่นโบราณที่ยากูซานิยมใช้ ถือเป็นลวดลายยอดนิยมของนักสักและผู้รักรอยสัก แต่ในญี่ปุ่น การสักถูกมองว่าเป็นเรื่องน่าอับอาย และเป็นสัญลักษณ์ของอาชญากร เพราะฉะนั้น อนเซ็นและโรงแรมของญี่ปุ่นร้อยละ 56 จึงไม่อนุญาตให้ผู้มีรอยสักขนาดใหญ่แบบยากูซาเข้าไปใช้บริการอาบน้ำร้อนร่วมกับผู้อื่น
อย่างไรก็ตาม ในยุคที่ญี่ปุ่นพึ่งพาเงินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโตเกียวโอลิมปิกที่กำลังจะมาถึงในปี 2020 ซึ่งจะต้องมีคนจากทั่วโลกหลั่งไหลเข้ามาในญี่ปุ่น ผู้ประกอบการอนเซ็นกำลังปรับตัว เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีรอยสัก สามารถเข้าใช้บริการอนเซ็น สัมผัสประสบการณ์แบบญี่ปุ่นได้ จึงมีอนเซ็นหลายแห่งที่เริ่มอนุญาตให้ผู้มีรอยสักใช้บริการ แต่ภายใต้ข้อแม้อันแปลกประหลาดที่ว่า เจ้าของรอยสักต้องใช้สติกเกอร์แปะปกปิดรอยสักเอาไว้ตลอดเวลาที่อยู่ในอนเซ็น โดยมีพนักงานคอยเช็คในห้องแต่งตัวว่าสติกเกอร์สามารถปกปิดรอยสักได้อย่างมิดชิดเรียบร้อยหรือไม่
การท่องเที่ยวญี่ปุ่นพยายามอธิบายว่าข้อแม้แปลกๆนี้เป็นการพบกันครึ่งทางระหว่างชาวญี่ปุ่นที่รู้สึกไม่สบายใจที่เห็นคนมีรอยสักเข้ามาอาบน้ำร่วมกับตนเองในอนเซ็น กับชาวต่างชาติและชาวญี่ปุ่นยุคใหม่ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์อนเซ็น แต่มีรอยสักแฟชั่นหรือตามความเชื่อทางศาสนา โดยชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่บอกว่าพวกเขาไม่มีปัญหา หากจะมีผู้มีรอยสักเข้ามาใช้อนเซ็นร่วมกับตนเอง ตราบใดที่รอยสักถูกบดบังเอาไว้ด้วยสติกเกอร์ แต่นักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งก็ยังคงรู้สึกว่าการต้องปกปิดรอยสักถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของพวกเขาอยู่ดี