เครื่องบินโดยสาร สายการบิน อะแลสกา แอร์ไลน์ส ต้องกลับมาลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินเมืองซีแอตเติล หลังมีพนักงานขนย้ายกระเป๋า ‘ขี้เซา’ นอนหลับอยู่ในห้องเก็บสินค้าใต้ท้องเครื่องบิน
เมื่อ 14 เม.ย.สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน กับเครื่องบินโดยสารของสายการบินอะแลสกา แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน 448 ‘ซีแอตเติล-ลอสแองเจลิส’ จนกัปตันต้องขอกลับมาลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินเมืองซีแอตเติล รัฐวอชิงตัน ของสหรัฐฯ ตามเดิม หลังจากได้ยินเสียงกระแทกแรงๆ จากใต้ท้องเครื่องบิน และต่อมาจึงทราบว่า มีพนักงานขนย้ายกระเป๋าเดินทางคนหนึ่ง ได้นอนหลับอยู่ในห้องเก็บสินค้าใต้ท้องเครื่องบิน และมารู้สึกตัวตื่นก็ตอนที่เครื่องบินโดยสารได้ทะยานออกจากสนามบินเมืองซีแอตเติลเพื่อมุ่งหน้าไปยังนครลอสแองเจลิสแล้ว
สายการบินอะแลสกา แอร์ไลน์ส ออกแถลงการณ์ชี้แจงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า เครื่องบินโดยสารอะแลสกา แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน 448 ได้บินกลับมาลงจอดที่สนามบินเมืองซีแอตเติล หลังจากขึ้นบินได้ประมาณ 14 นาที และพนักงานขนย้ายกระเป๋าที่นอนหลับอยู่ในห้องเก็บสินค้าใต้ท้องเครื่องบิน ปลอดภัยดี โดยเขาได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจเช็กร่างกาย อย่างไรก็ตาม ทางสายการบินจะดำเนินการสอบสวนพนักงานขนกระเป๋าคนนี้ ซึ่งทำงานอยู่ที่บริษัท Menzies Aviation เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไป
ข่าวแจ้งว่า จากการสอบถามผู้โดยสารคนหนึ่งที่เดินทางมากับเที่ยวบินนี้ เปิดเผยว่า ผู้โดยสารบนเครื่องไม่มีใครได้ยินเสียงกระแทกแรงๆ จากใต้ท้องเครื่องบิน และไม่มีใครรู้ว่า เครื่องบินกลับไปลงจอดที่สนามบินเมืองซีแอตเติลเพราะเหตุใด จนกระทั่งมาทราบเรื่อง เมื่อมีผู้โดยสารหลายคนพูดกันว่า มีพนักงานหลับอยู่ในห้องเก็บสินค้าและถูกนำตัวออกมาได้แล้ว