แพทย์ออกมาเตือน ! สาวไทยมีแนวโน้มที่จะเสียชีวิตจากโรคกระดูกเพิ่มขึ้นทุกปี!
รู้หรือไม่ ว่าร่างกายสามารถสังเคราะห์วิตามินดีได้ดี เมื่อรับแสงแดดที่มีรังสีอัลตร้าไวโอเลตบี (UVB) เว้นซะว่า เราจะมีพฤติกรรมหลบแดด ทาครีมกันแดดที่มีสารป้องกันระดับสูง หรือทำงานในห้องแอร์ จึงได้รับแสงแดดเพื่อมาสังเคราะห์วิตามินดีไม่เพียงพอ ซึ่งงานวิจัยล่าสุดพบว่า คนไทย 1 ใน 3 หรือร้อยละ 36.5 ขาดวิตามินดี ซึ่งมีสาเหตุมาจากการหลบแดดของคนวัยทำงาน ในขณะที่งานวิจัยอีกชิ้นพบว่า คนกรุงเทพฯ ร้อยละ 64.6 มีสถิติพร่องวิตามินดี หรือมีอย่างไม่เพียงพอ ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ในระยะยาวได้
คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญต่อวิตามินดีน้อยกว่าวิตามินตัวอื่นๆ ซึ่งวิตามินดีนั้น มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ให้เป็นไปอย่างสมบูรณ์ ช่วยลดความเสี่ยงของภาวะครรภ์เป็นพิษ หรือภาวะความดันโลหิตสูงระหว่างตั้งครรภ์ นอกจากนี้ การมีวิตามินดีเพียงพอ ยังลดความเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุน และยังช่วยชะลอวัยของผิวพรรณได้อีกด้วย ซึ่งอัตราการเสียชีวิตของผู้หญิงที่ป่วยเป็นโรคกระดูกพรุน สืบเนื่องมาจากการขาดวิตามินดี มีสูงกว่าผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านม และมะเร็งปากมดลูกรวมกันซะอีก สาเหตุมาจากโรคกระดูกพรุนในผู้สูงอายุทำให้เกิดภาวะกระดูกหักได้ง่าย จนต้องเข้ารับการรักษา ซึ่งผู้ป่วยส่วนมากจะมีอาการติดเชื้อและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ผู้หญิงทุกคน มีความเสี่ยงในการเป็นโรคกระดูกพรุนเมื่ออายุเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ ผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อหลายๆ โรค ยังมีระดับวิตามินดีที่ต่ำ ฉะนั้นการดูแลตัวเองเพื่อสุขภาพที่ดีในอนาคตจึงมีความจำเป็นอย่างมากสำหรับทุกคน ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดในการสร้างภูมิต้านทานที่ดี นั่นก็คือการเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ของเราค่ะ! เช่น บุหรี่และคาเฟอีน ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ใช่สาวอมควัน แต่อาการติดชาและกาแฟก็มีความเสี่ยงเช่นกัน ฉะนั้น ลด ละ หรือเลิกการทานคาเฟอีน เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด อาจเปลี่ยนไปเป็นการดื่มชาที่ปราศจากคาเฟอีกแทน
สาวๆ หลายคนกลัวว่า การออกแดดนานๆ อาจทำให้เป็นมะเร็งผิวหนัง แต่จากสถิติพบว่า คนไทยมีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งผิวหนังเพียงแค่ 1 ใน 30,000 คน แต่ถ้ากลัวว่าการโดนแดดจะทำให้ผิวคุณคล้ำลง หรือเกิดฝ้าบนใบหน้า เราแนะนำให้คุณทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินดีเป็นการทดแทน เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่าและบรรดาเห็ดตากแห้งก็พอทดแทนกันได้
ที่สำคัญ อย่าคิดไปเองเรื่องวิตามิน เพราะการขาดวิตามินดี หรือได้รับวิตามินดีในปริมาณที่มากเกินไปก็ส่งผลเสียด้วยกันทั้งคู่ การตรวจวัดระดับวิตามินดีจึงเป็นสิ่งจำเป็นโดยไม่มีข้อแม้ โดยสามารถตรวจได้ด้วยการตรวจเลือดในห้องปฏิบัติการ ที่สำคัญ ต้องไม่อดน้ำและอาหารก่อนตรวจ ส่วนราคาในการตรวจนั้นก็ขึ้นอยู่กับความหรูหราของแต่ละโรงพยาบาล
เนื้อหาโดย Dodeden.com