พระเอกหนุ่มหุ่นล่ำ”อั้ม-อธิชาติ ชุมนานนท์”หลังห่างหายจากงานละครไปล่าสุดมาเปิดใจเล่าถึงสาเหตุของกระแสข่าวฉาวรุมเร้าในอดีตโดนทั้งพระเอกปากแดงพระเอกตัวอ. และการแต่งงานกลบข่าวเกย์จนเป็นที่มาของฉายา “เจ้าพ่อโดนบูลลี่” เป็นทุกข์จนรู้สึกแอนตี้เป็นบาดแผลในใจถึงขนาดไม่อยากออกจากบ้านทั้งหมดนี้ในรายการ WOODY FM

 

อั้ม

 

วู้ดดี้สังเกตุเห็นว่าอั้มออกรายการค่อนข้างจะน้อยมากคุณไม่ค่อยอยากคุยหรือไม่มีเรื่องคุย?
อั้ม :คือจริงๆผมคิดว่าน่าจะเป็นรุ่นแรกๆเลยที่เข้าวงการบันเทิงมายุค 90 ประมาณนั้นผมเข้ามาในปี 1997 จากการประกวดสมัยก่อนเริ่มต้นเป็นเด็กขี้อายเป็นคนโลกส่วนตัวสูงมากและตั้งใจไว้เลยว่าวงการบันเทิงเป็นอาชีพที่จะไม่ทำเลยเด็กๆเราก็อยากเรียนวิศวะอยากเรียนหมอตามความคิดเดิมวงการบันเทิงดูไม่จริงใจไม่ชอบสิ่งที่หลอกลวงตอนเด็กๆเราคิดแบบนั้นเราเองไม่ใช่คนที่ชอบแสดงออกก็เลยไม่อยากทำจนจับพลัดจับผลูเข้ามาจริงๆเรียกว่าไม่ใช่แรงผลักดันนะเป็นแรงคุณแม่ถีบคือแม่พยายามจะให้ไปประกวดให้ไปทำโน้นให้ไปทำนี่จนได้เข้าวงการมาช่วงแรกๆผมเล่นละครแข็งเป็นหุ่นยนตร์เลยไม่ชอบแสดงออกไม่ชอบเข้าสังคมโลกส่วนตัวสูงก็เลยเป็นที่มาของการไม่ชอบออกรายการ

ก็คือเลือกที่จะคุยหรือไม่คุย?
อั้ม :เลือกที่จะไม่คุยเพราะบางทีเรารู้สึกว่าไม่ได้อยากสื่อสารเป็นคนไม่ชอบพูดเรื่องของตัวเองออกไปแล้วช่วงเด็กๆเราแผลเยอะเหมือนกันเฉพาะข่าวฉาวหนึ่งในนั้นมีอธิชาติชุมนานนท์แน่นอนเยอะมากในสมัยก่อนอาทิตย์หนึ่งต้องมีอธิชาติ 1-2 วันเชื่อไหมตื่นเช้ามาเมื่อก่อนนะลงมาจากบ้านหยิบหนังสือพิมพ์ทุกครั้งจะเปิดหน้าบันเทิงก่อนวันนี้จะมีชื่อเราไหมน้าเมื่อก่อนจะมีพระเอกปากแดงพระเอกตัวอ. อย่างงั้นอย่างงี้มีทุกเรื่องแม้กระทั่งแต่งงานไปแล้วนะก็มีบอกว่าเขาแต่งกลบหรือเปล่านะเป็นแล้วพยายามแต่งหลบเลี่ยงหรือเปล่าเมื่อก่อนแรกๆผมเป็นข่าวกับมดดำเยอะมากตั้งแต่เราเจอกันเด็กๆตามสำนักเข้าทรงคือในสมัยก่อนเราจะหน้าขาวปากแดงคือจำได้ว่าปากแดงมาเข้าฉากผู้กำกับบอกว่าไปลบปากได้ไหมผมก็บอกว่าผมไม่ได้ทามันเป็นแค่ลิปมันคือด้วยความที่เด็กๆเราขาวเราก็จะโดนมาตลอดข่าวของการเป็นเกย์ก็มีข่าวผู้หญิงก็มีเยอะจนบางทีเราก็นั่งถามตัวเองเหมือนกันนะว่าตกลงจะระบุเพศไหนให้กูกันแน่เราก็เลยรู้สึกว่าค่อนข้างแอนตี้กับการสื่อสารเด็กๆเราก็จะจัดการตัวเองไม่ถูกเลยรู้สึกว่าทำไมสังคมทำแบบนี้กับเราไม่เข้าใจบอกแบบนี้แล้วทำไมสังคมหรือนักข่าวก็ยังเอาเราไปนินทาสนุกสนานทั้งที่เราทุกข์มากนะ

 

 

ทุกข์แค่ไหน?
อั้ม :รู้สึกว่าไม่อยากออกจากบ้านไม่อยากจะเจอใครบางทีมองหน้าคนจะคิดไปเลยว่าคนนี้จะต้องคิดแบบนี้กับฉันเพราะบางทีไม่ใช่แค่คิดเราเดินไปไหนก็ได้ยินเขาแอบกระซิบกระซาบกันเคยไปงานหนึ่งผมแค่เดินหันหลังกลับมานิดเดียวได้ยินอั้มไงคนนั้นที่เป็นเกย์อย่างงี้เลยในสมัยก่อนผมมีเพื่อนที่เป็นเพศที่ 3 เยอะมากจะมีข่าวขนาดไหนไม่ว่ายังไงผมก็ไม่สนเพราะนี่คือเพื่อนเราให้ความเคารพในความเป็นเพื่อนเขาจะเป็นยังไงก็แล้วแต่

ซึ่งวันนี้กับในวันโน้นคนละเรื่องกันเลยนะตอนนี้ปากยิ่งแดงยิ่งดีเป็นหรือไม่เป็นไม่สนใจคิดว่าเราเกิดมาในยุคที่มันท้าทายมากสำหรับคนในวงการบันเทิงสิ่งที่อั้มเคยพูดครั้งหนึ่งว่าเป็นเจ้าพ่อโดนบูลลี่ทุกวันนี้ยังโดนบูลลี่อยู่ไหม?
อั้ม :ก็คงน้อยลงครับถ้าบูลลี่แปลว่าเราถูกพูดเยอะในที่สาธารณะซึ่งสมัยเด็กเราก็มองว่าเป็นบาดแผลอย่างหนึ่งเป็นการเติบโตอย่างหนึ่งให้เราได้เรียนรู้

ตอนที่คบกันหรือแต่งงานกันแล้วเวลาคุณโดนแซวว่าเป็นเกย์ นัท มีเรีย เคยมาพูดไหมว่าโดนแซวอีกแล้ว?
อั้ม : (หัวเราะ) เคยตอนแรกเราไม่รู้หรอกพี่วู้ดดี้คบกันไปสัก 1 ปีเขาถึงมาบอกความลับว่าเขาเองก็ไม่มั่นใจเขาเองก็ได้ยินคนมาเยอะนะเขาต้องเอาดวงไปตรวจดูดู 2 รอบด้วย (ยิ้ม)

สามารถติดตาม Woody FM ได้ที่ช่องทาง Podcast : WOODY FM , Facebook: Woody, Youtube: Woody ทุกวันพุธ เวลา 19.00 น.

 

 

สนใจหาข้อมูลและปรึกษาศัลยกรรมได้ที่นี่

โดดเด่น
ศัลยกรรม
webdodeden

 

ป้ายกำกับ: |

เรื่องน่าสนใจ