ความรักไม่เข้าใครออกใคร เรื่องหัวใจคงห้ามกันไม่ได้ อั๋น ชุลีพร วัย 53 ปี (อดีต)ภรรยาป๋าต๊อก ตลกดังผู้ล่วงลับ เปิดใจให้รักครั้งใหม่กับ น้องบาส อายุเพียง 27 ปี ซึ่งทั้งคู่ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ ตัวจริง เสียงจริง ทาง youtube ช่อง 8 ซึ่งพี่อั๋น บอกว่าคบกันมา 3 ปี เชื่อว่าพรหมลิขิตมีจริง
โดยพี่อั๋นเล่าให้ฟังว่า “คบกันมา 3 ปี ไปเจอกันที่ร้านอาหารร้านหนึ่ง มาเจอน้องเขาก็ไม่ได้มีความรู้สึกว่าเราจะต้องมาอะไรกัน จริงๆ ตอนนั้นไม่ได้อยู่ในหัวเลย แล้วก็มีเพื่อนคนหนึ่งเป็นรุ่นน้องเขาก็บอกเจ๊อั๋นเด็กคนนี้น่ารักร้องเพลงเพราะมากเลย เราก็เหรอ ฟันเหยินเลย กูไม่เอาหรอก เขาก็บอกลองดูเสียงมันร้องเพลงก่อนสิ ก็เลยฟัง แล้วก็เออร้องเพลงดี ก็เลยถามญาติพี่น้องเป็นศิลปินรึเปล่า ทำไมร้องเพลงดี คือความรู้สึกเราตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร แล้วรู้สึกว่าเพื่อนพยายามจะเอาชนะเรา เราก็เลยบอกว่างั้นมาลองดูว่าระหว่างเธอกับชั้น ใครจะได้เป็นแฟนเด็กคนนี้
ตั้งแต่นั้นมาก็เดินเกมมาตลอดค่ะ เวลาเราเข้าไปในร้าน เราก็จะได้เงินกลับมาอย่างต่ำ 4-5พัน เพราะคำว่าล้อต๊อกทำให้ชีวิตไม่มีวันอดเลยจริงๆ 14 ปีที่ผ่านมาที่ป๋าไม่อยู่ ไม่เคยคิดรักใครเลย เราไม่เคยคิดรักใครเกิน 2 ปี แต่บาสเป็นคนที่เขายิ่งหนีเราก็ยิ่งตาม จำไว้เลยนะคะเรื่องนี้อะไรที่เราวิ่งตามมันจะหนีเรา แต่ถ้าเราอยู่เฉยมันจะมาหาเอง วันที่เราตัดใจจากเขาคือวันที่เราพอแล้ว ไม่เอาแล้ว สู้ไม่ไหวแล้ว เหนื่อยแล้ว ยอมแพ้ ตอนนั้นใช้เวลาจีบ 2 ปีค่ะ ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยพูดดีกับอั๋นเลยนะ เขาพยายามหนี พูดหยาบๆใช้คำแรงๆ ซึ่งอั๋นก็ทนไม่รู้จะทนไปถึงไหน”
“จนวันที่เขาบอกว่าเขาขาดเราไม่ได้ เหตุการณ์วันนั้นคือวันที่เราทะเลาะกัน แต่ตอนนั้นเราตกลงเป็นแฟนกันแล้ว ก่อนที่จะตกลงเป็นแฟนกัน ก็มีไปจุดธูปบอกป๋าต๊อกตั้งแต่เริ่มแรกเลย ก่อนที่จะคบกัน เราก็ไปบอกเขาว่า คุณ ชั้นอยากคบเด็กคนนี้ ถ้ามันดีคุณก็ให้ชั้นเดินต่อนะ ถ้ามันเลวหรือมันไม่ดี คุณตัดให้ชั้นก่อนเลยนะ ชั้นขอโทษคุณด้วยเพราะว่าคุณก็จากชั้นไปนานแล้ว ชั้นอาจจะอยากมีเพื่อน อยากมีคู่คิด อยากมีแฟน ไม่อยากอยู่อย่างนี้ จากนั้นมาอั๋นก็เริ่มจีบ 2 ปีแรกอยู่ด้วยกันแต่ก็เป็นแฟนกันธรรมดา พอปีหลังๆ มาเป็นสามีภรรยากันเพราะว่าเขาไม่เคยร้องขออะไรเลย แล้วเขาไม่เคยขอเลยนะ เขาบอกแค่ว่าสมบัติมีอยู่ที่ไหนบอกพี่นกด้วยนะ ไม่ต้องห่วงบาส บาสมีกินมีใช้ บาสทำงาน คือทุกคำที่เขาพูดมาจากใจจริง เงินแต่ละบาทที่เขาได้มาก็จะเอามาให้อั๋นหมดเลย
อย่างเขาได้มาแสนเจ็ดเขาก็ให้อั๋น สำหรับอั๋นมันน้อยนะเพราะเรามีเป็นล้าน แต่สำหรับเขามันเยอะ อั๋นซึ้งนะเพราะมันเป็นเงินของเขา คำนี้ทำให้เรารู้เลยว่าเขาไม่ได้เป็นผู้ชายเห็นแก่ตัว ถามว่าจะแต่งงานมั้ย คงไม่แต่งหรอกค่ะ แค่ป๋ารับรู้ แต่จดทะเบียนต้องมีแค่ป๋าคนเดียวเท่านั้น อั๋นขอแค่นี้ อยากให้ลูกสบายใจใช้ ทรัพย์สำรวย ตลอดไป ขอแค่นี้อย่างเดียว แต่เขาจะเป็นสามีที่ดีต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งเขาก็ไม่แคร์เรื่องนี้อยู่แล้ว ซึ่งแม่เขาก็ดีนะคะ เราบอกว่าเรามีหลานให้เขาไม่ได้ แต่แม่เขาก็บอกว่า งั้นเอาสุนัขให้แม่ละกัน ครอบครัวนี้อบอุ่นมาก”
“ในตอนแรกลูกของอั๋นก็ไม่เปิดใจรับบาสนะ เพราะเราอายุต่างกันมาก เขาบอกว่า แม่คิดดีแล้วเหรอจะคบกับมัน แม่คิดดีๆ นะ เขายังเด็กแล้วเขาหล่อ เป็นไปไม่ได้หรอกที่ผู้ชายอายุเท่านี้จะมาชอบคนอายุเท่าแม่ เราก็บอกว่า เออ ก็สนุกๆ ไปไม่ต้องมาห่วงแม่หรอก เตรียมใจไว้แล้ว แต่ ณ ตอนนี้ลูกทุกคนมีอะไรจะเข้าหาบาส ไม่เข้าหาอั๋นค่ะ”
ส่วนบาสกล่าวว่า “ครั้งแรกเลยที่รู้จักไม่คิดที่จะจีบเลย ตอนแรกผมไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำว่าคือใคร แต่มีรุ่นพี่ที่เขาร้องเพลงอยู่กับผม เขาบอกว่าเนี่ยแม่คนนี้ใจดี ชื่อแม่อั๋นเมียป๋าต๊อก เคยเห็นมั้ยในทีวี ผมก็บอกไม่คุ้นไม่เคยเห็น แต่ด้วยความที่เราเห็นเวลาเขาทำงานอยู่ในร้านเขาจะเดินไปเอ็นเตอร์เทนแขก หรือขึ้นไปร้องเพลง เรารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้มีความมั่นใจจัง เขาไม่สวย เขาดูน่าเกรงขาม ดูเป็นผู้มีอิทธิพล เขาดูเป็นเจ๊ใหญ่ เป็นขาใหญ่ในร้าน เพื่อนแนะนำเราก็สวัสดีครับ ฝากเนื้อฝากตัวน้องเขาด้วยนะครับ เวลามีงานนอกก็พาไปงานนอกด้วยนะครับ
ผมเพิ่งมารู้ทีหลังว่า จริงๆ แล้วแม่อั๋นไม่ค่อยมาทำงาน จนผู้จัดการร้านบอกว่า บาสมาทำงานเถอะ แม่อั๋นจะได้มาทำงาน ทีนี้มันก็เหมือนกับว่าที่ร้านเขาไม่ค่อยรับนักร้องชาย แต่เขารับเรา เขาจะให้ความเอาใจใส่เรา เวลาเราโชว์บนเวทีเขาก็จะให้ความสำคัญ เจ้าของร้านเขาจะเห็นตรงจุดนี้ แล้วเขาก็สนับสนุนให้ลองคบกับแม่อั๋นดู ในร้านก็จะมีคนเร้าให้เราจีบแม่อั๋น แล้วเรารู้สึกว่าเขาเป็นแม่ มีแต่คนรักและเคารพเขา เราเลยรู้สึกว่าไม่คิดที่จะจีบเป็นอย่างอื่นเลยแม้แต่นิดเดียว คนในร้านก็เชียร์ให้เราคบกับแม่อั๋นสิจะได้สบาย แต่จริงๆ แล้วไม่เป็นอย่างที่เขาคิดครับ
แต่จุดเปลี่ยนก็คือเขาจะจีบเราเพื่อที่จะแข่งกับเพื่อน ซึ่งเราก็รู้ และรู้สึกว่าทำไมตัวเราไม่มีคุณค่าเลย ทำไมต้องมาแย่งชิงดีชิงเด่นกัน วันที่เราตกลงเป็นแฟนกันเป็นวันที่เราทะเลาะกันรุนแรง วันนั้นเราโทรบอกเขาว่า คุณเราไปกินข้าวกันนะ บาสมีเรื่องจะบอก ซึ่งบาสคิดมาทั้งคืนเลย คือเขาทนนิสัยเราได้ บาสหยาบคายมาก ซึ่งเมื่อก่อนนิสัยเขาเป็นนักเลง แต่เขามายอมเรา เพื่อจะยอมให้เรารักเขา แต่ถ้าเรารักแล้ว และเขาชนะเราจะยังไงต่อ แล้วเขาเห็นเราเป็นตัวอะไร ตอนนั้นเรารู้เลยรู้สึกว่าเล่นอะไรไม่เล่นมาเล่นกับเรา งั้นได้
จนวันหนึ่งเรารู้สึกว่ามันแข่งขันกันจนเรารักโดยไม่รู้ตัวครับ มันเกิดความผูกพัน เราไม่มีความหวานให้กันเลย ซึ่งวันนั้นเราบอกเขาว่า คุณ บาสตัดสินใจได้แล้วเราเป็นแฟนกันนะ เราบอกก่อนวันเกิดเขาเพราะเราอยากจะให้เขาเป็นของขวัญ วันนั้นเรารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เขาอดทนทำเพื่อเรา เขาตื๊อจนเราใจอ่อน เราก็คิดว่าเขารับนิสัยเราได้ คนที่จะอยู่ด้วยกันได้ต้องรับนิสัยกันและกันได้ ผมใช้วิธีแรกๆ ช่วยกันเปลี่ยนนิสัย ถ้าเปลี่ยนไม่ได้เดี๋ยวเราค่อยว่ากัน แต่สุดท้ายมันเปลี่ยนยาก ถ้าเปลี่ยนยากงั้นเราลองมาเปลี่ยนตัวกันและกัน
ถามว่ากลัวคนจะมองว่าชอบคนอายุแก่กว่ามั้ย ตอนนั้นไม่กลัวครับถึงเขาแก่ เขาสวย เขามีความสามารถ เขาทำให้เราสบายใจในช่วงเวลาหนึ่ง มันจะมีทั้งความสุขและทุกข์ปนกันด้วยคือมันครบหมดเลย ทุกวันนี้มันจะเป็นอย่างนี้ ทะเลาะกันทุกวันแต่ทำไมถึงมาอยู่ด้วยกันได้ เราแฮปปี้ที่จะอยู่ด้วยกัน เราหาเลี้ยงตัวเอง เราไม่ได้ไปเบียดเบียน ถึงเวลาทำงานคือทำ”
