อาการของ Jet Lag

Jet Lag อาการแปลกๆ ที่มักเกิดขึ้นเมื่อเดินทางไกลๆ jet Lag2มาดูกันว่าเราสามารถรับมือกับอาการแปลกๆ นี้ได้อย่างไรกันบ้าง
         พล.อ.ต. นพ.จงสวัสดิ์ ภูติรัตน์ แพทย์เวชศาสตร์การบิน ได้ อธิบายถึงภาวะ Jet Lag เอาไว้ว่า สำหรับผู้ที่ต้องเดินทางไปในที่ไกลๆ เป็นประจำ และมักจะต้องประสบกับอาการแปลกๆ หลังจากข้ามทวีปหรือข้ามโซนของเวลาหลายๆโซน คือ รู้สึกง่วงนอน อ่อนเพลีย ไม่สบายตัว รู้สึกหดหู่ นอนไม่หลับ ฉุนเฉียวง่าย เกิดความสับสน และบางทีอาจสูญเสียความจำไป อาการเหล่านี้เราเรียกกันว่า Jet lag นั่นเอง นอกจากอาการเหล่านี้ ยังมีการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ เกิดขึ้นกับหน้าที่พื้นฐานต่างๆของร่างกายด้วย เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ ความดันเลือด และกระบวนการหายใจอีกด้วย
Jet Lag1
         Jet lag เป็นอาการที่ทำให้รู้สึกแย่มาก เมื่อเราต้องเดินทางข้ามเส้นแบ่งโซนของเวลาตั้งแต่ 4 โซนขึ้นไป หรือเมื่อเราหลงเวลาในการเดินทางจากตะวันออกไปยังตะวันตก การฟื้นคืนจากอาการ jet lag จะต้องใช้เวลาในอัตราส่วนประมาณ 1 โซนต่อ 1 วัน (เช่นถ้าเราข้ามโซนของเวลา 4 โซน ต้องใช้การฟื้นตัวประมาณ 4 วัน) อย่างชัดเจน อาการ jet lag สามารถที่จะหยุดชะงักความสนุกสนานหรือความกระตือรือร้นของเราให้จืดจางลงไป ได้ อาจมีผลกระทบต่อการทำงาน สำหรับนักธุรกิจที่ต้องเดินทางเพื่อธุรกิจ แต่มีวิธีที่สามารถลดอาการต่าง ๆ ที่เกิดจาก Jet Lag ได้ดังนี้
ก่อนการเดินทาง
         ควบ คุมเวลาอาหารของเรา เพื่อว่าในวันที่เราต้องบิน เราจะได้พร้อมที่จะกินอาหารที่เหมาะสมกับเวลา ณ จุดหมายปลายทางของเรา ควบคุมตารางเวลาการนอนและการพักผ่อนของเราเอาไว้ เพื่อจะได้ไม่ต้องตึงเครียดหรือเกิดอาการเมื่อเริ่มต้นการเดินทางอันยาวนาน
ช่วงระหว่างการบิน

         แต่ง ตัวสบายๆ และพยายามปลดเสื้อผ้าที่รัดออก ปรับเข็มนาฬิกาโดยตั้งเวลาของนาฬิกาตามจุดหมายปลายทางของเรา และเริ่มต้นทำตัวให้ดำเนินชีวิตอยู่กับเวลานั้นในใจ  ถ้าหากว่าเวลาในจุดหมายปลายทางของเรา เป็นช่วงเวลาที่เรามักจะวิ่งจ็อกกิ้งเสมอ ก็ให้จินตนาการว่ากำลังวิ่งจ็อกกิ้งอยู่ เราอาจพยายามออกกำลังกายบางอย่างด้วยก็ได้ ในที่นั่ง เช่น อาจจะโน้มคอไปข้างหลังสัก 5 ครั้งเพื่อบริหารคอและบริหารกล้ามเนื้อแผ่นหลังด้านบน หรืออาจจะเบ่งและผ่อนคลายหน้าอก ท้อง และสะโพกสัก 5 ครั้ง กินอาหารเบาไม่หนักท้องมากและถ้าเป็นไปได้ ให้กินอาหารที่เหมาะสมกับเวลาตามเวลาในจุดหมายปลายทางที่จะไปถึง พยายามหลีกเลี่ยงพวก ลูกกวาด คาเฟอีนและพวกแอลกอฮอล์ต่างๆ  เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้เราไม่ได้พักผ่อน

         ยิ่ง ไปกว่านั้นพวกคาเฟอีนและแอลกอฮอล์จะเพิ่มปฏิกิริยาต่างๆ  ในการขจัดน้ำออกจากร่างกายของห้องผู้โดยสารที่เพิ่มความกดดัน แนะนำให้ดื่มน้ำผลไม้มากๆและน้ำเปล่าแทน สำหรับนักเดินทางที่มีประสบการณ์บางคน พยายามที่จะดื่มน้ำผลไม้หนึ่งแก้ว หรือน้ำเปล่าสำหรับทุกๆชั่วโมงที่พวกเขากำลังบินอย ู่ท้ายที่สุดให้นอนและตื่นขึ้นตามตารางเวลาในจุดหมายปลายทางของเรา

เมื่อคุณถึงที่หมาย
         ให้ นอนตามเวลาของท้องถิ่นนั้นๆที่เราไปถึง ทั้งการกินอยู่ และการทำกิจกรรมต่างๆไปตามตารางเวลาทุกประการหากว่าเราจะต้องนอนในช่วง ระหว่างเวลากลางวัน ให้นอนน้อยกว่าสองชั่วโมงให้ออกนอกบ้านในตอนที่มีแสงสว่าง(หมายถึงเวลาเช้า เร็วเท่าที่จะทำได้สักประมาณ 2 ชั่วโมง) แสงสว่างของดวงอาทิตย์จะช่วยให้เราปรับนาฬิกาชีวภาพในร่างกายใหม่เร็วขึ้น ในท้ายที่สุด ลองดื่มนมสักแก้วหรือกินไอศกรีมก่อนที่จะเข้านอนถ้าหากว่ามีปัญหาในเรื่อง การนอน
         ข้อ แนะนำข้างต้นฟังดูแล้วอาจคล้ายกับการรักษาแบบพื้นบ้านในสมัยก่อน แต่ก็วางอยู่บนรากฐานที่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ด้วย ซึ่งผลิตภัณฑ์นมมีคุณสมบัติหลายประการที่มีอิทธิพลต่อความง่วงเหงาหาวนอน
         คำ แนะนำต่างๆเหล่านี้ เป็นไปได้ที่อาจจะไม่ได้ทำให้เราสามารถเอาชนะอาการ jet lag ได้อย่างสมบูรณ์ แต่จะสามารถช่วยลดอาการที่ไม่สบายต่างๆของการเปลี่ยนแปลงเรื่องโซนเวลาของ เราได้บ้าง สิ่งที่ทำงานได้ผลดีที่สุดสำหรับคนๆหนึ่งนั้น อาจไม่จำเป็นต้องได้ผลดีที่สุดสำหรับคนอีกคนหนึ่ง  ด้วยเหตุนี้ขอให้คิดถึงข้อแนะนำต่างๆเหล่านี้ในฐานะที่เป็นแนวทาง สำหรับพัฒนาแผนการต่างๆ ของตัวเราเอง เพื่อการบินที่เป็นปกติ ให้คุณเที่ยวไปแบบไกลโรค
ขอขอบคุณข้อมูลจาก vejthani.com
ขอขอบคุณภาพจาก coolinfographics.com, sciencedaily.com
ป้ายกำกับ: |

เรื่องน่าสนใจ