เนื้อหาโดย Dodeden.com
วันนี้โดดเด่นดอทคอมเรามีอุทาหรณ์การทำศัลยกรรมมาฝากกันอีกแล้วล่ะค่ะ โดยเคสนี้ทำจมูกกับหมอ บ. ที่คลินิก ท. ย่านลาดพร้าว เสริมครั้งแรกแล้วหลังจากทำมีรอยนูนขึ้นตรงช่วงหว่างตา และทางคลินิกก็ได้ดำเนินการรับผิดชอบแก้ไขให้ทันที หลังจากแก้ไขได้ประมาณ 14 วัน ก็ได้เดินทางไปตัดไหม ผลปรากฎว่ามีเลือดไหลซึมๆ และแผลเจ็บกว่าตอนตัดไหมครั้งแรก พอถึงบ้านเหมือนมีน้ำใสๆ ซึมออกมาจากทางจมูก เลยติดต่อไปที่คลินิก ที่คลินิกเลยให้เดินทางกลับไปหาหมอตรวจดู ซึ่งหมอก็ได้แจ้งกับคนไข้ไปว่า แผลปริ
ภาพแรกหลังจากทำศัลยกรรมเสริมจมูกแล้วมีรอยนูนขึ้นที่หว่างตา ก่อนที่คุณหมอจะให้เดินทางไปแก้ไข
ซึ่งอาการแผลปรินั้นเนื่องมาจาก แผลยังไม่แห้งสนิทดี และตัวเจ้าหน้าที่คลินิกที่ตัดไหมให้ น่าจะดูไม่ออกว่า แผลยังแห้งไม่สนิท หลังจากนั้นเลยทำให้แผลปริออกมาได้ ทางคลินิกเลยให้คนไข้เข้าไปเย็บแผลที่ปริออก และมีการเอาปลายซิลิโคนออกจากจมูกส่วนหนึ่งไป หลังเย็บเสร็จคนไข้เห็นรูจมูกตัวเองถึงกับตกใจมากๆ คอยถามทางคลินิกไปตลอดว่า จะหายไหม ทางคลินิกก็บอกว่า หายแน่ ให้รอหน่อย เพราะการทำจมูกจะทำให้รูจมูกไม่เท่ากันอยู่แล้ว จนผ่านมา 6-7 เดือน รูจมูกก็ยังคงผิดรูป ทางคลินิกจะให้ไปแก้ไขอีกครั้ง คนไข้เห็นรูจมูกล่าสุดก็ไม่กล้ากลับไปทำ ทางด้านคลินิกเลยตัดสินใจชดใช้เป็นการคืนเงินให้คนไข้ 10,000 กว่าบาท
ภาพหลังจากที่ไปผ่าตัดเอาไหมออก แล้วรูจมูกผิดรูป ซึ่งทางคุณหมอก็ได้เย็บแผลให้ใหม่ และเอาซิลิโคนออกบางส่วน
หลังจากนั้นคนไข้ก็ไม่ได้ไปเรียนหนังสือ เพราะอับอายกับสภาพจมูกของตัวเอง เลยมีเวลาไปสอบถามทางคลินิกต่าง ๆ ซึ่งแต่ล่ะคลินิกก็บอกว่า ไม่สามารถกลับมาเหมือนเดิมได้ 100% และราคารักษานั้นแต่ล่ะที่คือ เกิน 70,000 บาททุกคลินิก ที่แพงสุดราคา 120,000 บาท ซึ่งการเย็บให้รูจมูกรั้งไปแบบนี้ จะทำให้คนไข้มีแผลแบบนี้ไปนานมาก อาจารย์หมอบางท่านบอกว่าอาจมีสิทธิ์ที่จะเป็นไปตลอดชีวิตเลยทีเดียว
ภาพจมูกปัจจุบันยังคงผิดรูป และอาจจะมีสิทธิ์เป็นไปตลอดชีวิต