เรียบเรียงข่าวโดย โดดเด่นดอทคอม
ภาพประกอบจาก ช่อง 2
หลังจากทิ้งวงการบันเทิงไปใช้ชีวิตกับสามีอยู่ต่างประเทศร่วม 7 ปี มาวันนี้ “อีฟ-กมลชนก เวโรจน์” (อดีต)ดาราสาวชื่อดัง หอบลูกกลับเมืองไทย ลือกันหนาหูว่าเจ้าตัวและ “สามีชาวเกาหลี” แยกกันอยู่กว่า 6 เดือน
ด้วยสาเหตุที่ว่าคุณสามีไม่มีเวลาให้ ไร้วิสัยความเป็นพ่อ ข่าวนี้จริงหรือไม่ รายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทาง “ช่อง 2” มีคำตอบ
แยกกันอยู่กับสามีชาวเกาหลีแล้ว ?
“แฟนอีฟเป็นคนเกาหลี แต่เกิดที่อเมริกา ซึ่งแยกกันประมาณ 6 เดือนแล้ว แต่เขายังอยู่ที่อเมริกา ยังอยู่ในเมืองเดียวกัน ยังเจอกันบ้าง ส่วนตัวอีฟกลับเมืองไทย ยังไม่ถึงอาทิตย์เลยค่ะ ประมาณ 4 วัน”
คุณพ่อคุณแม่ว่าไง ?
“ไม่ได้ว่ายังไง เขาก็รู้มาตลอดเหตุการณ์ต่างๆ เราก็โทรมา คิดถึงบ้าน ตอนลูกคนที่ 2 คลอดมาประมาณ 6 เดือนแล้ว
เราแยกทางกับแฟนเราก็เลยเรียกคุณแม่ไปช่วยเลี้ยงลูกที่โน่น(หัวเราะ) ไม่งั้นก็คงจะหนักเหมือนกัน เพราะมีน้อง 2 คน”
ได้ยินว่าสามีมาง้อ ง้อยังไง ?
“ก็เหมือนกับว่าเขาคิดได้แล้ว เขารู้สึกว่าเขาตื่นมาไม่เห็นหน้าลูก หน้าภรรยา เขารู้สึกเหมือนเขาขาดอะไรไป เขาก็จะปรับปรุงตัวใหม่ ก็พูดแบบนี้มาแล้วหลายครั้งตอนนี้เราไม่ฟังแล้ว เราให้เขาโชว์ให้เราเห็นก่อนดีกว่า”
มีเรื่องผู้หญิงไหม หรือแค่ไม่มีเวลาให้อย่างเดียว ?
“ผู้ชายคนนี้ไม่เจ้าชู้เลย ไม่หวานเลย ไม่สวีตเลย เขาเป็นคนดีค่ะ แต่ว่าติดเรื่องติดเพื่อน แล้วเรามีลูกแล้ว มันไม่ใช่แค่อยู่จะไปเที่ยว ยูติดเพื่อน มันต้องมากกว่านั้น มันต้องคิดถึงอนาคต คิดถึงครอบครัว หรือว่าแบบคิดถึงอะไรยาวๆ
แต่เหมือนเขาคิดแค่วันนี้พรุ่งนี้ อาทิตย์หน้า แค่นี้ คืออีฟไม่อยากพูดอะไรในทางที่ไม่ดีกับเขามาก เพราะอย่างน้อยเขาก็เป็นพ่อของลูกเราตั้ง 2 คน”
เป็นปัญหาสะสม ?
“ประมาณนั้น แต่เขามาเป็นหนักๆ มากๆ ช่วงที่คลอดลูกคนที่ 2 แล้วก็ไม่ค่อยมีเวลา ตื่นมาออกไปทำงานเลย กลับบ้าน บางทีเช้า มันไม่ใช่วิสัยของคนที่เป็นพ่อที่ควรจะทำ”
ลูกๆ ว่ายังไงบ้าง ?
“เราเศร้ามาก เพราะว่าลูกเราเห็น ทุกครั้งเขาจะนัดมาเจอมาทานข้าว ทุกครั้งที่เขา และลูกร้องไห้ แต่คนเล็กยังไม่ค่อยรู้เท่าไหร่ เขาก็อ้อนพ่อเขาเป็นเรื่องปกติ แต่คนโตจะร้องไห้ บางทีก็ถามแดดดี้อยู่ไหน”
เขารู้ไหมว่าลูกร้องไห้ ?
“รู้ ทุกครั้งที่เขาเดินหันหลัง เขาก็จะรู้สึกไม่ดีว่าทำไม แต่เราก็ไม่รู้ความคิดเขาว่าเขาจะรู้สึกแย่แค่ไหน อันนี้ไม่รู้จริงๆ”
แล้วเราบอกลูกว่าอะไร ?
“แดดดี้ไปทำงาน แล้วเวลาใครถามเขาก็จะบอกว่าแดดดี้เขาไปทำงาน”
เรื่องเงินส่วนใหญ่เราดูแล สามีช่วยมากแค่ไหน ?
“เรื่องเงินต้องช่วยบ้าง เพราะที่โน้นมันเป็นกฎหมาย ถ้าเขาไม่ช่วย เขาก็ติดคุกได้ มันเป็นเรื่องที่เขาต้องทำ แต่ว่าอาจจะไม่ค่อยตรงเวลา(หัวเราะ)
ซึ่งเราอยากรู้ว่า ทำไม ให้เขาโตหน่อยได้ไหม คือแบบเหมือนเราเห็นวัยรุ่นที่นี่ เขาก็จะแบบพอโตขึ้นพวกเราก็จะอยากมีบ้าน อยากมีรถ
แต่ที่โน้นไม่ค่อยเป็นแบบนั้นเท่าไหร่ ถ้าคิด คิดได้ก็คิดได้ แต่ถ้าคิดไม่ได้ก็จะไม่ได้เลย จะทำงานหาเงินไปวันๆ”
กลับมาครั้งนี้ตั้งใจมาอยู่ถาวร ?
“ตอนนี้กลับมาทำเรื่องบริษัท ก็คงจะไปๆ มาๆ มากกว่า เพราะว่าอยู่ได้ทีละ 6 เดือน”
เรื่องที่เรียนลูก ?
“คือใจอยากให้เรียนภาษาไทยที่นี่ก่อน เพราะภาษาไทยรู้สึกว่ายากกว่าภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษโตแล้วก็ยังไปเรียนทัน แต่ว่าก็ยังไม่รู้ ถ้าเอาลูกมาเรียนที่นี่ อีฟต้องอยู่ที่นี่ บางทีคุณแม่ก็บอกเอาน้องทิ้งไว้นี่ก่อนไป แล้วไปเคลียร์ทางกับคุณพ่อเขาให้เรียบร้อย แต่ไม่ได้ (หัวเราะ) ชีวิตนี้ติดลูก ต้องอยู่กับลูก”
ความเป็นไปได้ที่จะหย่า ?
“ตอนนี้ก็ 50 50 ตอนแรกตัดสินใจว่าหย่า แต่อาทิตย์ก่อนที่เราจะมาเมืองไทย เขากลับมาง้อ ก็เลยทำใจลำบาก เพราะว่าลูกยังเล็ก”
ยังรักเขาไหม ?
“ยังรักเขามากที่สุด ไม่งั้นไม่มีลูกด้วยกันถึง 2 คน แต่ถ้ารักแล้วอนาคตเรามองไม่เห็นเนี่ย เราก็เหนื่อย”