ช่วงนี้เด็กนักเรียนในโรงเรียนของจีนก่อเหตุตะลุมบอลกันให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง จนเกิดคำถามตามมาว่าเกิดอะไรขึ้นกับมารยาทของนักเรียน เหตุแรกเกิดขึ้นในโรงเรียนอนุบาลที่เมืองหนานจิง มณฑลเจียงซู เด็กนักเรียนชั้นอนุบาลรุมชกต่อยกันจนได้รับบาดเจ็บถึง 5 คน แต่ละคนพบร่องรอยเขียวช้ำและแผลขีดข่วนตามร่างกาย โดยรายหนึ่งนั้นอาการหนักกว่าเพื่อน กระดูกสันหลังเคลื่อนจนต้องใส่เฝือกที่คอและรักษาดูอาการที่โรงพยาบาล จนผู้ปกครองที่เห็นอาการของลูกๆ พากันร้อนใจสอบความความจริงจากเด็ก
ผู้ปกครองที่ทราบต้นสายปลายเหตุจากการบอกเล่าของเด็กๆ ก็พากันร้อนใจแจ้งเรื่องไปยังผู้บริหารโรงเรียน จากการสอบสวนปรากฏว่าสังเวียนต่อสู้ขนาดย่อมนี้มาจากครูประจำชั้นที่เห็นว่าลูกศิษย์เล่นซุกซนกันโดยไม่มีทีท่าว่าจะเหน็ดเหนื่อย จึงพยายามหาวิธีให้เด็กๆ สงบลงบ้าง สุดท้ายมาลงเอยที่การให้เด็กๆ ชกต่อยกันด้วยมือเปล่าเสียเลยเพื่อปลดปล่อยพลังงานออกไปเสียบ้าง
หลังเรื่องเริ่มลุกลามบานปลาย ครูหญิงอีกรายหนึ่งซึ่งเปิดเผยเพียงว่าแซ่เก่อ ยอมรับสารภาพว่าเธอเป็นเจ้าของไอเดียให้เด็กๆ ชกต่อยกัน เนื่องจากเห็นว่าลูกศิษย์แต่ละคนมีพลังงานเหลือเฟือ จึงให้เด็กๆ แลกหมัดกันเองเพื่อหาผู้ชนะ ทันที่ที่ทราบเหตุการณ์ ผู้บริหารสำนักงานเขตการศึกษาในท้องถิ่นออกแถลงการณ์ว่าทางการและผู้อำนวยการของโรงเรียนที่เกิดเหตุไม่เห็นด้วยที่คุณครูประจำชั้นให้นักเรียนชกต่อยกัน และสั่งพักงานครูประจำชั้นคนดังกล่าวแล้ว
ส่วนอีกเหตุการณ์หนึ่ง กลุ่มนักเรียนชายชั้นมัธยมต้นรุมทำร้ายร่างกายครูผู้สอนหลังจากที่เห็นเพื่อนนักเรียนด้วยกันถูกครูบีบคอ โดยในคลิปวิดีโอความยาว 1.15 นาทีที่ปรากฏในโลกออนไลน์ นักเรียนชายรายหนึ่งพยายามยื้อแย่งกระดาษข้อสอบกับครูบริเวณหน้าชั้นเรียนและมีการถกเถียงกัน โดยครูได้ยื่นมือไปบีบคอนักเรียน ในขณะที่เพื่อนนักเรียนคนอื่นกำลังนั่งทำข้อสอบอยู่ในห้อง
ส่วนนักเรียนชายที่ถูกทำร้ายร่างการก็ตอบโต้กลับทันที โดยมีกลุ่มเพื่อนนักเรียนอีกราว 4-5 คนเข้ามาร่วมวงรุมทำร้ายครูด้วย แต่ภาพในคลิปที่ปรากฏต่อมา คือหลังจากที่เด็กนักเรียนหยุดประเคนหมัด เท้า เข่า ศอก ครูคนนี้ก็พยายามยั่วยุให้เกิดการตะลุมบอลอีกด้วยการเดินเข้าไปตบหน้าเด็กนักเรียนที่ยื้อยุดกระดาษกันตั้งแต่แรก วนเวียนเช่นนี้อยู่ 3 ครั้ง แต่ตามคลิปไม่ปรากฏว่าครูที่ถูกรุมทำร้ายได้รับบาดเจ็บ
สำนักข่าวท่องถิ่น The Paper รายงานว่า เหตุการณ์นักเรียนรุมทำร้ายครูในคลิปดังกล่าวเกิดขึ้นที่โรงเรียนมัธยมต้นในเมืองป๋อโจว มณฑลอันฮุย โดยผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่าเกิดเหตุการณ์ตามที่เป็นข่าวจริง และกำลังสอบสวนข้อเท็จจริงจากผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
