ที่มา: FB : Herkid รวมพลคนเห่อลูก

เนื้อหาโดย Dodeden.com 

เป็นอีกหนึ่งอุทาหรณ์ที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องอ่านเอาไว้ เพื่อที่จะไม่นิ่งนอนใจกรณีที่ลูกน้อยเกิดทานอาหารแล้วติดคอ อย่านึกว่าอาจจะไม่เป็นอะไร เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้รักษาไม่ทัน อาจจะสูญเสียลูกน้อยอันเป็นที่รักไปได้นะคะ! 

เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของเด็กหญิงคนหนึ่งที่ผู้เป็นแม่ออกมาเปิดเผยเรื่องราวลงในเฟสบุ๊ค Herkid รวมพลคนเห่อลูก ซึ่งเป็นเรื่องราวอุทาหรณ์เตือนสติคนเป็นพ่อ เป็นแม่ ว่าอย่านิ่งดูดายกับลูกน้อยเมื่อเห็นว่าลูกมีอาการป่วย อย่าคิดเพีงแต่ว่าคงไม่เป็นอะไรมาก … ซึ่งผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อว่า Mai Yamamoto ได้เล่าเรื่องราวที่ลูกสาวของเขาสำลักอาหารจนหายใจไม่ออก ซึ่งได้พาไปหาคุณหมอแล้วแต่ไม่ได้มีการตรวจอย่างละเอียด จนทำให้เกือบจะสูญเสียลูกสาวผู้เป็นที่รักไป โดยคุณ Mai Yamamoto ได้โพสต์ข้อความเล่าเรื่องราวเอาไว้ว่า … 

50

 

“มีอุทาหรณ์เกี่ยวกับเรื่องลูกสำลักอาหารมาฝากแม่ๆ ทุกท่านค่ะ ลูกกินถั่วลิสงคั่วครึ่งเสี้ยวเข้าไปเกิดสำลัก ปากเขียวดิ้นทุรนทุราย แม่ก็เลยทำการทุบๆ หลังให้ถั่วที่ติดคอพร้อมกับอุ้มลูกวิ่งไปรพ.ใกล้บ้านห่างกัน 100 ม. พอถึงรพ.ถั่วมันลงไปแล้ว ลูกปากกลับมาเป็นสีชมพูเหมือนเดิม หมอถามจะเอ็กซเรย์ไหมจะได้แน่ใจว่ามันลงไปแล้วหรือยัง เราตัดสินใจไม่เอ็กซเรย์ กลับบ้านมาลูกก็เล่นปกติ ร่าเริงแจ่มใส แต่มีไอบ้าง เราก็คิดว่าที่ลูกไอ ถั่วคงบาดคอทำให้ระคายเคืองคอ ก็ไม่คิดอะไร พยายามให้ลูกกินน้ำเยอะๆ ลูกไอทุกวัน กินข้าวน้อย ก็คิดว่าลูกคงยังระคายคออยู

ผ่านไป 1 อาทิตย์ลูกยังไม่หายไอ ก็เลยซื้อยาแก้ไอละลายเสมหะมาให้กิน เพราะลูกมีเสียงครืดคราดในคอในอก สามีบอกเดี๋ยววันพุธจะพาลูกไปหาหมอนะเห็นไอมาหลายวันแล้ว (เราไม่ได้บอกสามีว่าลูกสำลักถั่ว) ตกดึกวันอังคารตี 3 ลูกดิ้นทุรนทุราย หายใจอ่อน ตาลอยรีบพาไปหาหมอนอนรพ.เอกชนใกล้บ้าน 1 คืน อาการไม่ดีขึ้นถูกส่งต่อไปเอกชนอีกที่หมอเอกซเรย์แล้วส่องกล้องดูเจอถั่วติดที่ปอดปิดกั้นลมหายใจ เวลาหายใจเข้าได้แต่เวลาหายใจออกไม่ได้ ปอดลูกเกือบแตกเพราะลมอัดแน่นปอด 1 ข้าง ส่วนปอดอีกข้างทำงานหนัก ติดเชื้อสเลดเต็มปอด พยาบาลดูดออกสีเขียวอื๋อเลย ปอดแฟบด้วย

โดยหมอว่าโชคดีมากเลยนะที่ลูกไม่ตาย เพราะอาการโคม่าต้องใส่ท่อช่วยหายใจทางปาก และต้องให้ยานอนหลับตลอดเวลาเพราะถ้าลูกตื่นเขาจะใช้พลังเยอะเกินไปทำให้เหนื่อยอันตรายเกินไป ลูกนอนรพ. 10 วัน หมดไปครึ่งล้าน ขนาดประกันช่วยแล้วนะ หมดแค่ไหนก็ยอมเพื่อชีวิตลูก อยากฝากเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์แก่แม่ๆ ทุกท่านค่ะ เกิดอะไรกับลูกนิดหน่อยอย่าชะล่าใจ ให้ไปหาหมอ จะได้ไม่เสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่ายเหมือนเรา ถ้าโชคไม่ดีเราอาจจะเสียลูกไปแล้วก็ได้ … รู้สึกโทษตัวเองทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องนี้ ถ้าให้หมอเอ็กซเรย์ซะตั้งแต่แรกก็คงไม่เป็นแบบนี้”

51

ซึ่งหลังจากที่คุณ Mai Yamamoto ได้ออกมาเล่าเรื่องราวเป็นอุทาหรณ์ในครั้งนี้แล้วนั้น ก็ได้มีชาวเน็ตเข้ามาให้กำลังใจลูกสาวของเขากันอย่างมากมาย ซึ่งภายหลังคุณ Mai Yamamoto ก็ได้ออกมาอัพเดทข่าวดีให้ทุกๆ คนได้ทราบกันว่าลูกน้อยของเธอนั้นปลอดภัยดีแล้ว โดยมีข้อความระบุไว้ว่า

“มาอัพเดทอาการน้องค่ะ วันนี้คุณหมอนัดเช็คอัพผลเอ็กซเรย์ออกมาแล้วหมอบอกอาการดีขึ้นมากแล้วไม่ต้องกลับมาเช็คอีกแล้วไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงยังมีสเลดนิดหน่อยในปอดจัดยามาให้น้องกินและให้คุณแม่ช่วยเคาะปอดให้น้องต่อไปอีก1เดือนเพื่อที่น้องจะได้ไอแล้วกลืนลงกระเพราะได้

ต้องขอขอบคุณคุณหมออนุพันธ์ ตันทชุนห์ ที่รักษาน้องนานะให้หายกลับมาร่าเริงสดใสเป็นขวัญใจพ่อแม่เหมือนเดิมคุณหมอรพ.สมิตติเวชศรีนครินทร์เป็นหมอเด็กที่เก่งมากระหว่างที่น้องป่วยอธิบายอาการและแนวทางรักษาให้เราฟังอย่างเป็นขั้นตอนเข้าใจง่ายและพยาบาลก็น่ารักทุกคน ขอขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ วันนี้ขอลงรูปครอบครัวและคุณหมอมาให้เพื่อนๆ ดูนะคะ”

เรื่องน่าสนใจ