ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หญิงสาว อายุ 26 ปี รายหนึ่ง เข้ารักษาดวงตาที่รพ.พระนั่งเกล้าโดยมีอาการปวดตาอย่างรุนแรงจนต้องหลับตาตลอดเวลา สอบถามทราบว่าได้ซื้อคอนแทคเลนส์แฟชั่นมาใส่ ตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค. จากการตรวจสอบอาการของจักษุแพทย์พบว่า ตาขวามีลักษณะบวมช้ำและแดงก่ำ มีขี้ตาสีเขียวปนขาวออกมาตลอด โดยเยื่อบุตาขาวมีอาการบวมกระจกตาดำมีรอยแผลเป็นจุดสีขาวประมาณ 5 มิลลิเมตรตรงกลางตาดำพอดี ลักษณะคล้ายเป็นหนอง ช่องหน้าม่านตามีหนองอยู่ประมาณ 1 ใน 5 ของตาดำ ซึ่งอาการเหล่านี้ คือ การเกิดแผลที่กระจกตาดำและช่องม่านตาร่วมกับการอักเสบของลูกตา
จากการวินิจฉัยเบื้องต้นร้อยละ 90 น่าจะเป็นการติดเชื้อซูโดโมแนสออโรจิโนซา (Pseudomonas aeruginosa) ซึ่งเป็นเชื้อที่สามารถอยู่ในทุกส่วนของร่างกาย มักพบตามที่ชื้นตามโคลนตมสามารถอยู่ในร่างกายของมนุษย์ได้ที่อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียสเชื้อดังกล่าวจะชอบอยู่ในขี้มูก ขี้ตา ขี้หู รักแร้และขาหนีบ ซึ่งพร้อมโจมตีร่างกายถ้ามีแผลหากยิ่งเป็นเนื้อเยื่ออ่อนแก้วตาดำก็จะยิ่งเข้าได้ง่าย และเป็นเชื้อที่ดื้อต่อยาง่าย
เชื้อดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้ ตั้งแต่แผลขนาดเพียงปลายเข็ม เมื่อปล่อยทิ้งไว้เพียง 24 ชั่วโมงเชื้อก็สามารถกินทะลุเข้าไปในดวงตาถึง 5 มิลลิเมตร อย่างไรก็ตามต้องรอผลการเพาะเชื้ออีกครั้งว่าจะใช่เชื้อดังกล่าวจริงหรือไม่
ทั้งนี้ คนไข้หญิงรายนี้เผยว่า ได้ไปซื้อคอนแทคเลนส์แฟชั่นมาจากตลาดนัด ราคา 180 บาท มีน้ำยาและตลับให้พร้อมใช้งานได้ประมาณ 1 เดือน พอใส่ได้สักพักเริ่มปวดเบ้าตาและมีอาการแดงบวมรอบตาขาว ผ่านไป 2-3 ชม. หลับตาลงรู้สึกมีสิ่งแปลกปลอมบาดดวงตา แพทย์ระบุอาการนี้ต้องใช้การรักษาอย่างไม่มีกำหนด หากตาบอดคงเสียใจมาก และอยากเตือนว่าอย่าใช้คอนแทคเลนส์แฟชั่นเช่นตนเอง
ขอบคุณที่มาจาก sanook.com