ยังเป็นที่กังขาว่า ภายในตู้เซฟยักษ์ที่พบในตึกเก่าของ รสพ.ใน อ.ทุ่งสง นครศรีธรรมราช ข้างในมีอะไรกันแน่ จะมีเงินทองของมีค่าหรือไม่ เพราะเคยใช้เป็นสนง.ของแบงก์สยามกัมมาจล แต่หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ไม่มีใครสามารถเปิดได้…
เมื่อวันที่ 23 พ.ย.58 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช กรณีที่จากนายทรงชัย วงษ์วัชรดำรง นายกเทศมนตรีเมืองทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ได้เช่าอาคารที่ทำการของ รสพ.เป็นตึกเก่า ตั้งอยู่บริเวณสถานีรถไฟชุมทางทุ่งสง เพื่อเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นทางประวัติศาสตร์ และพบห้องลับ ก่อสร้างในลักษณะเป็นตู้เซฟขนาดใหญ่ กว้างยาวประมาณ 2 เมตร และไม่สามารถเปิดตู้ได้
ต่อมาเมื่อช่วงสายวันที่ 23 พ.ย. นายทรงชัย วงษ์วัชรดำรง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของการรถไฟ และสื่อมวลชนจำนวนหนึ่ง เข้าไปตรวจภายในอาคารที่พบตู้เซฟขนาดยักษ์ก่อด้วยปูนซีเมนต์ กว้างยาวประมาณ 2 เมตรเศษ ประตูเหล็กหนามาก มีรูกุญแจประตู 3 รู เนื่องจากไม่มีกุญแจไขประตู จึงไม่สามารถเปิดเซฟดูได้ว่าข้างในมีของมีค่าอะไรเก็บเอาไว้บ้าง
นายทรงชัย วงษ์วัชรดำรง นายกเทศมนตรีเมืองทุ่งสง กล่าวว่า เท่าที่ทราบ ตึกนี้เคยใช้เป็นสำนักงานของแบงก์สยามกัมมาจล ทุนจำกัด สาขาทุ่งสง เขตภูมิภาค ระหว่าง พ.ศ. 2468-2475 ขณะนั้นตามภูมิภาคยังไม่มีธนาคารเลย มีเฉพาะที่ อ.ทุ่งสง กับ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาเท่านั้น บรรดาคนรวยและเศรษฐี จึงนำเงินทองของมีค่า มาฝากกับแบงก์สยามกัมมาจล (ปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็นธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด มหาชน)
“กระทั่งปี 2485 เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกทั่วภาคใต้ มีการทิ้งระเบิดใส่ตัวอาคารที่ทำการ รสพ.เพราะเข้าใจว่าเป็นคลังอาวุธ แต่พลาดเป้าหมาย ต่อมาสงครามสงบลง และห้องเซฟดังกล่าวถูกปิดตาย ก่อนหน้านี้มีเอกชนมาเช่าเก็บสินค้าต่างๆ แต่ก็ไม่เคยเปิดตู้เซฟได้เลย จึงกลายเป็นที่กังขาว่า ในตู้เซฟยักษ์ใบนี้จะมีทรัพย์สินอะไรอยู่บ้าง” นายกเล็กทุ่งสง กล่าว.