ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์

เกษตรกร อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย หนีปัญหาน้ำน้อย ฝนไม่ตก เลิกปลูกข้าว หันมาปลูกผักคะน้า พืชใช้น้ำรดวันละ 2 ครั้ง ผลผลิตเก็บเกี่ยวไวเพียง 50 วัน เก็บขายได้ ต้นทุนต่ำ ตลาดมีความต้องการสูง ขายส่งกิโลกรัมละ 15 บ.

EyWwB5WU57MYnKOuXogQEUyfSIHBZBiZMeVdnG5unya5UF9JVbBYoz

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 4 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกร ต.ในเมือง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย ยึดอาชีพปลูกผักคะน้าขายแทนการทำนา เนื่องจากในพื้นที่ที่ผ่านมาฝนตกลงมาน้อยมาก ส่งผลทำให้บางพื้นที่ต้องประสบกับปัญหาภัยแล้ง ส่วนบางพื้นที่ที่ยังพอมีน้ำอยู่ตามสระที่ขุดไว้ใช้ ทำให้เกษตรกรหันมาปลูกผักคะน้า เพราะให้ผลผลิตไวใช้เวลาเพียง 50 วัน ก็เก็บผลผลิต ใช้น้ำน้อยและต้นทุนต่ำ มีความเสี่ยงน้อยกว่าการทำนา เก็บผลผลิตส่งขายตลาดได้ตลอด เนื่องจากมีความต้องการสูง สามารถสร้างรายได้ดี

NjpUs24nCQKx5e1D61mjodizHYc2eA4Hv4KBhOg0o6c

นางประพิมพ์ รอบุญ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 97/16 ม.1 ต.ในเมือง เปิดเผยว่าตนได้หันมาทำอาชีพปลูกผักคะน้าขายจำนวน 2 ไร่ เป็นเวลา 10 กว่าปีแล้ว แทนการทำนา เนื่องจากผักคะน้าเป็นผักที่ใช้น้ำน้อย ต้นทุนต่ำ ใช้น้ำน้อยกว่าการปลูกข้าว และราคาดี ใช้เวลาประมาณ 50 วัน ก็เก็บผลผลิตได้ ปลูกครั้งหนึ่งสามารถเก็บผักคะน้าได้ถึง 1,800 กิโลกรัม ซึ่งขายส่งในราคากิโลกรัมละ 15 บาท ถึงแม้ว่าในพื้นที่ฝนจะตกลงมาน้อยมาก ทำให้ประสบกับปัญหาภัยแล้ง แต่สามารถสูบน้ำจากสระที่เตรียมไว้นำมารดผักคะน้าได้ เนื่องจากใช้น้ำรถผักแค่วันละ 1-2 ครั้งเท่านั้น ซึ่งตนคิดว่าการปลูกผักคะน้าในช่วงนี้น่าจะได้รายได้ดีกว่าข้าว เนื่องจากใช้น้ำน้อย ทำให้เกิดความเสี่ยงน้อยกว่า เพียงเดือนกว่าๆ ก็สามารถเก็บผลผลิตได้” นางประพิมพ์ กล่าว

NjpUs24nCQKx5e1D61mjodizHYc2eAzynyFaJ46mFKL

เรื่องน่าสนใจ