จากรายงานของอินเตอร์เนชันแนลบิสซิเนสไทม์ส เจ้าหน้าที่ตำรวจจีนปะทะกับผู้ประท้วงที่เรียกร้องให้มีการสร้างทางรถไฟความเร็วสูงผ่านเมืองของตนเองในเขตตะวันตกเฉียงใต้ของจีนทำให้ผู้ประท้วงได้รับบาดเจ็บนับร้อยคน
ภาพบันทึกที่ถูกเผยแพร่บนโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นถึงความรุนแรงด้วยภาพของรถเจ้าหน้าที่ซึ่งถูกทุบตีและเผาทำลาย และรถพยาบาลที่พลิกคว่ำ รวมถึงภาพของประชาชนจำนวนมากที่ได้รับบาดเจ็บและถูกห้อมล้อมด้วยตำรวจปราบจราจล และภาพของประชาชนที่ขว้างปาก้อนหินเข้าใส่เจ้าหน้าที่
การประท้วงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีประชาชนกว่า20,000 คน เข้าร่วมการชุมนุมในเมืองหลินฉุย มณฑลเสฉวน ซึ่งเบื้องต้นการชุมนุมเป็นไปอย่างสงบ โดยประชาชนเหล่านี้มารวมตัวกันหลังทราบรายงานว่าเส้นทาง
รถไฟระหว่างเมืองที่จะเชื่อมต่อไปยังเมืองฉงชิงจะไม่ผ่านเมืองของพวกเขาแต่จะไปผ่านเมืองกวงอันซึ่งเป็นเขตศูนย์กลางของสำนักงานรัฐบาลแทน
“หัวชางเป้า”สื่อท้องถิ่นกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ในเมืองกวงอันได้ประกาศเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่า รัฐบาลท้องถิ่นได้การสนับสนุนการสร้างเส้นทางรถไฟผ่านเมืองกวงอันของพวกเขา แทนที่จะใช้เส้นทางผ่านเมืองหลินฉุยซึ่งมีระยะทางสั้นกว่า
ชาวหลินฉุยกล่าวว่าเมืองของพวกเขามีประชากรนับล้านคนและมีโรงงานเป็นจำนวนมาก แต่การพัฒนากลับเป็นไปอย่างล่าช้าเพราะไม่มีการเชื่อมต่อของเส้นทางรถไฟ และพวกเขายังกล่าวว่าเมืองกวงอันซึ่งมีประชากรน้อยกว่า แต่เป็นพื้นที่ศูนย์กลางการปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งทำหน้าที่พิจารณาการพัฒนาเส้นทางรถไฟ กลับได้รับการดูแลที่ดีกว่าเพียงเพราะเป็นบ้านเกิดของเติ้ง เสี่ยวผิง อดีตผู้นำสูงสุด
สื่อจีนบางสำนักวิจารณ์ว่าการประท้วงครั้งนี้เป็นเครื่องสะท้อนปัญหาความเหลื่อมล้ำของการจัดสรรทรัพยากรซึ่งบางเมืองที่ได้รับงบประมาณมหาศาล ขณะที่เมืองอื่นๆที่ยังขาดการพัฒนาระดับพื้นฐานกลับไม่มีการจัดสรรงบประมาณมาให้ โดยที่หลักการที่ใช้ในการพิจารณาจัดสรรงบประมาณขึ้นอยู่กับว่าใครคือผู้มีอำนาจ และกระบวนการตัดสินใจดังกล่าวก็ขาดความโปร่งใส และขาดกระบวนการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ