ที่มา: springnews

ชายชาวอังกฤษเข้ารับการผ่าตัดลำไส้จากอาการกรดไหลย้อน แต่กลับติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อ ลุกลามร้อยละ 20 ของร่างกาย จนเกือบต้องสูญเสียอวัยวะเพศไป

rothe01

สำนักข่าวต่างประเทศเผยถึงเรื่องราวการต่อสู้เอาชีวิตรอดจากโรคร้ายของชายชาวเมืองผู้ดีรายหนึ่ง ซึ่งติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อต้องผ่าตัดศัลยกรรมผิวหนัง และเกือบต้องเสียอวัยวะเพศไป

จาค็อบ ร็อธ ชายชาวอังกฤษ ซึ่งเคยประสบอุบัติเหตุรถชนอย่างรุนแรงเมื่อ 18 ปีก่อน ต้องรักษาตัวในห้องไอซียูนานถึง 96วัน แต่ก็ยังรอดชีวิตมาได้ ทว่าหลังเข้ารับการผ่าตัดหน้าท้องเพื่อรักษาอาการกรดไหลย้อน ที่ทำให้ลำไส้ของเขาฉีกขาด เขากลับติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อ necrotizing fasciitis (NF) จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด

rothe02

โดยโรคแบคทีเรียกินเนื้อ เป็นภาวะที่เกิดการติดเชื้อของชั้นใต้ผิวหนังอย่างรุนแรงและรวดเร็ว สามารถแพร่กระจายลึกลงไปถึงผิวหนังบริเวณที่หุ้มกล้ามเนื้อ และบริเวณรอบๆ ได้ หากไม่ได้รับการวินิจฉัยและรักษาทันท่วงที อาจทําให้เกิดการทําลายเนื้อเยื่อบริเวณดังกล่าว เกิดพิษต่อระบบต่างๆ ของร่างกายจนทําให้เสียชีวิตได้

หากเกิดโรคบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์จะเรียกว่า โรคหนังเน่า (Fournier gangrene) โรคนี้พบไม่บ่อยนัก แต่เป็นโรคที่ค่อนข้างน่ากลัว โดยพบว่าประมาณ 1 ใน 4 ของคนที่เกิดภาวะนี้จะเสียชีวิต

rothe03

ซึ่งหลังจากที่ร็อธติดเชื้อ เขาถึงกับไม่รู้สึกตัวและระดับอ็อกซิเจนเริ่มลดลงเรื่อยๆ แต่แพทย์พยายามยื้อชีวิตของเขาไว้ได้ โดยเชื้อแบคทีเรียได้ลุกลามกินพื้นที่ถึงร้อยละ 20 ของร่างกาย จนต้องเข้ารับการผ่าตัดผิวหนังหน้าท้อง ต้นขาและก้น รวมไปถึงบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ ซึ่งแพทย์เกือบจะต้องตัดส่วนอวัยวะเพศของเขาทิ้ง แต่สุดท้ายก็สามารถรักษาได้สำเร็จจากการใช้ผิวหนังศีรษะและหลังของเขามาปิดบาดแผล

ในระหว่างการพักฟื้นเขาต้องรับประทานอาหาร 4,500 แคลอรี่ต่อวัน เพื่อความแข็งแรงของร่างกาย ปัจจุบันเขายังมีอาการเหนื่อยง่าย มีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ และบางครั้งยังรู้สึกเจ็บอยู่ หากมีอะไรไปชนหรือสัมผัสบริเวณแผลเป็น แต่โชคดีที่เขามีชีวิตรอด โดยที่ไม่ต้องสูญเสียอวัยวะใดๆ ไปเลย

เรื่องน่าสนใจ