เคล็ดลับดูแลตัวเองหลังบริจาคโลหิต รู้เอาไว้ จะได้ไม่เหนื่อยง่าย เพราะการบริจาคโลหิต ถือเป็นการต่อชีวิตให้ใครอีกหลายหน สร้างบุญกุศลให้ทั้งผู้ให้และผู้รับ แต่รู้หรือไม่ว่าหลังจากบริจาคโลหิตแต่ละครั้ง ทำไมร่างกายคนเรามักรู้สึกอ่อนเพลีย เนื่องจากร่างกายเสียเลือดไปประมาณร้อยละ 8 ของน้ำหนักตัว หรือประมาณ 350-450 ซีซี จากทั้งหมดที่มีในร่างกายประมาณ 4,000 – 5,000 ซีซี

 

เคล็ดลับดูแลตัวเองหลังบริจาคโลหิต
ภาพจาก huffingtonpost.com

 

เคล็ดลับดูแลตัวเองหลังบริจาคโลหิต รู้เอาไว้ จะได้ไม่เหนื่อยง่าย

ในระยะ 1-2 วันแรก ผู้บริจากโลหิตจึงควรดื่มน้ำมากๆ เพื่อชดเชยน้ำเลือดที่เสียไปและไม่ควรออกกำลังกายหนัก หรือทำกิจกรรมที่ต้องเสียเหงื่อมากๆ เช่น การอบซาวน่า ควรพักผ่อนให้เพียงพอ และหลังจากการบริจาคโลหิต ไขกระดูกจะทำหน้าที่กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงที่มีคุณภาพดีขึ้นมาทดแทน เพื่อให้ร่างกายมีปริมาณโลหิตเท่าเดิม ดังนั้น การดูแลเรื่องโภชนาการที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญ

กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ อาหารที่ไม่ควรขาดคือโปรตีน ซึ่งได้จากถั่ว เนื้อสัตว์ นม ไข่ เต้าหู้ โปรตีนเกษตร และงา

 

เคล็ดลับดูแลตัวเองหลังบริจาคโลหิต

 

ควรกินยาเม็ด เสริมธาตุเหล็กที่ได้รับหลังจากบริจาคโลหิตวันละ 1 เม็ดจนหมด จะช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง ป้องกันโลหิตจาง และกินอาหารที่มีวิตามินบีสูง โดยเฉพาะโฟเลทและวิตามินบี12 ซึ่งอาหารที่มีโฟเลทสูง ได้แก่ผักชนิดต่างๆ เช่น ถั่ว บร็อคโคลี่ ปวยเล้ง หน่อไม้ฝรั่ง ธัญพืชไม่ขัดสี ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท ส่วนวิตามินบี12 ก็มีมากในเนื้อสัตว์ เช่น ตับ ปลา เนื้อ อาหารทะเล

อาการอ่อนเพลียหลังบริจาคโลหิตอาจทำให้อยากกินอาหารมากขึ้น และมีผลต่อการเพิ่มน้ำหนักตัว จึงควรระมัดระวังปริมาณอาหารประเภทแป้ง น้ำตาล และไขมันที่ให้พลังงานสูง หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

•••••••••••••••••••••

การดูแลตัวเองหลังการบริจาคโลหิตให้ถูกวิธี จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงเป็นปกติได้เร็วขึ้น ใครที่ไปทำความดีช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์มาเเล้ว ก็อย่าลืมดูแลตัวเองด้วยนะคะ ^^

 

เนื้อหาโดย Dodeden.com

เรื่องน่าสนใจ