เนื้อหาโดย Dodeden.com
ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ศูนย์ทันตนวัตกรรม ผลิต “เจลลี่โภชนา” เป็นอาหารพระราชทานไปแจกจ่ายให้กับผู้ป่วยโณคมะเร็งช่องปาก ผู้สูงวัยสูญเสียฟัน ผู้มีปัญหาการกลืนเคี้ยว และอีกหลายโรค ได้กินอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ และได้ลดการให้อาหารทางสายยาง ซึ่งทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น
ในหลวงรัชกาลที่ 9 ตรัสว่า “จำไว้นะ เวลาทำอาหารให้คนป่วย เรื่องรสชาติเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะเขาป่วยด้านร่างกายแล้ว จิตใจต้องดี ถ้าเราทำอาหารที่ไม่อร่อยไปให้ จิตใจเขาจะแย่ มันเป็นการซ้ำเติมผู้ป่วย”
เจลลี่พระราชทานนี้ เป็นรสมะม่วงสุดหอม เนื้อนุ่มเหมือนไข่ตุ๋น ที่อยู่ในบรรจุัณฑ์แบบถ้วยโยเกิร์ต อุดมไปด้วยสารอาหาร ไม่มีการซื้อขาย เป็นของพระราชทานอย่างเดียว นอกจากนี้ก็ยังมีการแนะนำอาหารอ่อนนุ่มที่ผู้ป่วยสามารถหาทานเองได้ โดยต้องเลือกอาหารที่มีคุณสมบัติต่อไปนี้
Free Pic
ขนมกล้วย
เป็นขนมที่แสนจะคุ้นเคยของเด็กไทย ซึ่งขนมกล้วยเป็นของกินที่ให้พลังงาน และนุ่มนวลเคี้ยวง่าย ช่วยให้ได้เส้นใยอาหารอย่างเต็มที่จากเนื้อกล้วยที่บดใส่มาในตัวขนม ที่แค่เอาลิ้นดุนก็สลายไปในปากได้แล้ว
ไข่ตุ๋น
เป็นของกินพื้นฐานที่จะมีการต่อยอดไปยังเมนูอื่นๆ ที่ไม่ฝืดแข็ง กินง่าย เป็นต้นว่า ไข่ตุ๋นพุดดิ้งหมูสับ คือไข่ตุ่นที่ใส่เนื้อหมูสับเนียนๆ หรือจะเป็นไข่ตุ่นกุ้งสับ ไข่เค็มหรือปูอัด ที่เป็นวัตถุดิบเคี้ยวง่าย เราสามารถใช้ไข่ตุ๋นเป็น พาหนะพาเครื่องปรุงที่มีคุณค่าอื่น เช่น ใส่ฟักทองหรือหัวหอมที่สุกนิ่มลงไป เป็นการเพิ่มเส้นใยอาหาร และวิตามินให้หลากหลายด้วย
โจ๊กข้าวกล้อง
ข้าวกล้องนี้มีส่วนของไฟเบอร์ คือเส้นใยที่เมื่อกินแบบหุงสดๆ ไม่ได้ต้มจนเละ อาจฝืดคอกินยาก แต่หากเอามาเคี้ยว ตุ๋นจนนุ่มนวลเป็นเนื้อโจ๊กดีแล้ว ก็ย่อมที่จะกินได้ง่าย แถมอร่อยด้วย ช่วยให้ได้วิตามินที่ยังติดอยู่กับข้าวกล้องธรรมชาติ
Free Pic
โยเกิร์ต
ถ้าแบ่งแบบเบสิกง่ายๆ ก็ได้เป็น 2 พวกคือชนิด “กรีก” กับ “ทั่วไป” กรีกโยเกิร์ต นั้นจะมีเนื้อข้นกว่า ด้วยถูกกรองเอาส่วนที่เป็นเวย์ออกไป นอกจากในเรื่องของประโยชน์ที่ได้ จาก “จุลินทรีย์ดีๆ” ของโยเกิร์ตแล้ว การเป็นแหล่งที่ดีของโปรตีนและแคลเซียม ก็ยังเป็นอีกจุดที่ทําให้ของกินที่มีเนื้อสัมผัสนี้ เป็นอาหาร สุขภาพอย่างแท้จริง
ห่อหมก
เป็นของคาวแบบไทยๆ ที่ทําให้เนื้อนุ่มเนียน ไม่ลําบากแก่การเคี้ยว มีข้อให้ระวัง คือเรื่อง “ก้าง” หรือเศษกระดูกหลงเหลืออยู่ในห่อหมก ซึ่งห่อหมก 1 ห่อมีสารอาหารที่คนกินจะได้ครบ คือผัก โดยเฉพาะใบยอที่เป็นสูตรดั้งเดิมโบราณ โปรตีนจากเนื้อปลา และไขมันจากกะทิ ด้วยปลาอย่างเดียวมีไขมันต่ำ จึงเป็นดังเทคนิคของคนโบราณที่ช่วยให้คนกินได้ไขมันดีจากพืชด้วย
วุ้นซุปไก่
ไม่ต้องซื้อซุปไก่สําเร็จรูป เพราะสูตรนี้ทําง่าย ทํากินเองสดๆ ได้คุณค่าคอลลาเจนครบครัน สําคัญอยู่ที่วัตถุดิบที่เลือกมา คือไก่ที่มีส่วนขาและปีก ที่จะช่วยปล่อยคอลลาเจนออกมาให้กลายเป็นวุ้น เมื่อทิ้งไว้อยู่ในอุณหภูมิห้อง ซึ่งนี่เองคือเจลาตินที่ออกมาจากหนัง เอ็น และโครงไก่ ที่หลุดออกมารวมกันอยู่ในน้ำซุปจนกลายเป็นของที่กินง่ายได้ประโยชน์เต็มๆ
Free Pic
สังขยา
วิวัฒนาการมาจากขนมฝรั่ง คือ “คัสตาร์ด” ที่เมื่อมาถึงสยามประเทศแล้ว พวกเราไม่ชื่นชอบนมเนยนัก จึงเปลี่ยนส่วนผสมเป็น “กะทิ” นอกจากนั้น ยังใส่กลิ่นรสแบบไทย เช่น ใบเตย หรือชาไทยได้อีก ได้พลังงานสูงมาก
น้ำผึ้ง
สำหรับผู้ใหญ่ที่กินอาหารได้น้อยมา อยากขอให้มีน้ำผึ้งติดบ้านไว้ เพราะใช้ชงเป็นเครื่องดื่มชื่นใจได้หลายชนิดเช่น น้ำใบเตยหอมๆ ใส่น้ำผึ้งหรือ น้ำมะตูมใส่น้ำผึ้งก็หอมอร่อย แม้ในคนที่ได้รับอาหารทางสายลงกระเพาะ ก็อาจชงน้ำผึ้งผสมมะนาวให้ทางสายยางได้เช่นกัน ซึ่งน้ำผึ้งถือเป็นน้ำหวานที่มีฤทธิ์ปฏิชีวนะ ฆ่า เชื้อจุลินทรีย์ได้ดี ไม่ว่าแบคทีเรียหรือเชื้อรา โดยเฉพาะน้ำผึ้งชนิดที่เรียกว่า “มานูก้า”
คัสตาร์ดและมูส
ทั้ง 2 นี้ ขออย่าคิดว่า เป็นขนมได้อย่างเดียว เพราะตามสูตรทางตะวันตกนั้น เขาทําเป็นของคาวได้ด้วย ซึ่งให้เนื้อสัมผัสที่นุ่มละมุน เช่น คัสตาร์ดคาวที่ใส่ครีม ไข่ กระเทียม ชีส และเหยาะพริกไทยให้มีรสชาติ ทานอุ่นๆ หรือจะเสิร์ฟเย็นก็ได้ เป็นเมนูที่กินง่าย ไม่น่าเบื่อ สําหรับมูสอร่อยๆ กินนุ่มๆ ง่ายๆ นั้น ก็มีหลายอย่าง เป็นต้นว่า ช็อกโกแลตออเรนจ์มูส ที่ให้รสชาติฉ่ำชื่นใจ นอกจากนั้นยังมีมูสปลาค็อด ที่กินกับโทสต์หรือแคร็กเกอร์ก็เข้ากันสุดๆ
อาหารการกินทั้งหมด คืออาหารชนิดที่เคี้ยวให้น้อยที่สุด หรือแทบไม่ต้องเคี้ยว ซึ่งบางอย่างสามารถเอามาดัดแปลงด้วยวัตถุดิบที่ชอบได้ตามสะดวก ได้คุณภาพชีวิตที่ดีจากการได้กินเองด้วยค่ะ
