“คุณพลอย” เจ้าของธุรกิจขนม “สยาม บานาน่า” หรือขนมที่เรียกว่า “โตเกียว บานาน่า เมืองไทย” เปิดใจ ยอมรับว่าหลังตกเป็นข่าวถูกผู้ผลิตบอกยกเลิกช่วงแรกรู้สึก “ชั้นวางของควรมีสินค้าที่เป็นของตนเอง” แต่หลังถูกแจ้งยกเลิกยังได้รับกำลังใจล้นหลาม พร้อมเดินหน้าหาช่องทางขายอื่นๆ ล่าสุดเตรียมนำเสนอสินค้าของตัวเองกับบริษัทหลายแห่งเพื่อวางจำหนายในศูนย์การค้าชื่อดัง
แม้บทความต้นฉบับที่เล่าเรื่องราวธุรกิจทำขนมปังรสกล้วยและอ้างอิงถึงปัญหาที่พบ ขณะเจรจากับบริษัทใหญ่ถูกลบออกจากบล็อกต้นตอแล้วแต่เนื้อหาและเรื่องราวในบทความยังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก “คุณพลอย” ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวโดยเล่าว่าช่วงที่เข้าไปนำเสนอสินค้าได้รับการต้อนรับและดูแลเป็นอย่างดี
การเข้าติดต่อและประชุมแต่ละครั้งมีบรรยากาศจริงจัง เตรียมงานเป็นขั้นตอนโดยตลอด นอกจากนี้ยังได้รับคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ทั้งเรื่องแพ็คเกจปรับเนื้อแป้งหน้าตาขนม รวมถึงการปรับเปลี่ยนชื่อตราสินค้าเป็น “สยาม บานาน่า” จนถึงวันนี้ก็เป็นคำแนะนำจากผู้ใหญ่
คุณพลอยเล่าต่อว่า ช่วงที่จ้างบริษัทอื่นผลิต ได้รับแจ้งว่าอยากได้สินค้า 6,000-10,000 ชิ้นต่อวัน แต่บริษัทที่จ้างผลิตไม่สามารถทำได้ ทำให้ต้องเปิดโรงงานเป็นของตัวเองและมีการกู้เงินลงทุนซึ่งตรงนี้ก็ได้รับความช่วยเหลือเป็นอย่างดีมีพนักงานมาวางแผนให้
เมื่อถามถึงการวางขายสินค้าคุณพลอยอธิบาย ว่าระหว่างขั้นตอนการเจรจาได้รับข้อมูลว่าสินค้าของตัวเองจะวางจำหน่ายไตรมาสที่ 2 ขณะที่มีสินค้าลักษณะเดียวกันวางจำหน่ายในเดือนมีนาคมจากนั้นก็ได้รับแจ้งยกเลิก ทำให้สับสน ซึ่งการได้รับแจ้งกลับทำให้รู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า และถึงกับฟุบไปช่วงหนึ่ง
“สินค้าทำไมต้องมาออกในช่วงเวลาเดียวกัน ? อันนี้ส่วนตัวไม่รู้ข้อเท็จจริงข้อนี้ แต่มันคือตามความรู้สึกเราค่ะ” คุณพลอยเล่า
อย่างไรก็ตาม หลังจากถูกยกเลิกการร่วมผลิต ฝ่ายตัวเองเงียบและไม่คิดจะเรียกร้องอะไร เมื่อถามว่ามีการเซ็นสัญญาใดๆช่วงการเจรจาหรือไม่ คุณพลอย ตอบว่าแม้จะมีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรก็คงไม่ช่วยในสถานการณ์นี้มากนัก “คุณพลอย” ยังเล่าว่า ตัวเองยังมีความรู้สึกที่ดีและมีความสัมพันธ์อันดีกับพนักงานที่ได้ร่วมงานกันเป็นเวลาหนึ่ง
“ถึงมีตัวสัญญาคิดว่าเราก็ทำอะไรไม่ได้ เรามดตัวเล็กๆค่ะ เราอยู่เงียบๆของเราเดินตามความคิดของเราใหม่ดีกว่า”คุณพลอยกล่าว
เจ้าของธุรกิจ “สยามบานาน่า” เปิดเผยแนวทางหลังจากนี้ โดยคุณพลอยระบุว่า จากเป้าเดิมตามที่เคยเจรจาและยังได้รับติดต่อกลับมาหลังบทความถูกเผยแพร่ แต่ล่าสุดกำลังจะเข้าเจรจาและนำเสนอสินค้าตัวเองกับกลุ่มบริษัทที่บริหารศูนย์การค้าหลายแห่งแทนจากที่มองว่าสินค้าที่เป็นผลไม้ไทยได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติซึ่งมักซื้อเป็นของฝากและยังรับสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์
เมื่อถามว่ากังวลกับเรื่องการแข่งขันทางการค้าโดยเฉพาะสินค้าลักษณะเดียวกันหลังจากสินค้าวางจำหน่ายผ่านศูนย์กลางการค้าในเมืองหรือไม่คุณพลอยระบุว่าไม่ได้มองเรื่องแข่งขันกับกลุ่มอื่นและตั้งเป้าหมายสร้างลูกค้ากลุ่มเฉพาะที่ชื่นชอบคุณภาพหรือรสชาติสินค้าของตัวเองมากกว่า
“ครั้งนี้เป็นบทเรียนครั้งใหญ่ที่ราคาแพงมากเป็นครั้งแรกด้วย ก่อนหน้านี้เคยทำพวกเสื้อผ้าเล็กๆน้อยๆมาบ้างแต่ครั้งนี้เราโดนแบบงงๆ ทุกสิ่งที่เราเห็นว่าเขามอบให้แล้วก็ยกเลิกได้ ตรงนี้เป็นสิ่งที่อยากบอกทุกสิ่งเกิดขึ้นได้อย่างไม่คาดคิด บางทีที่เราหวังไว้มันก็ไม่ใช่” คุณพลอยกล่าว