ที่มา: TNN 24

พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(โฆษก สตช.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีระเบิดแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร หลังเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยและตรวจหาหลักฐานในย่านหนองจอกและมีนบุรี 2 วันติดต่อกันว่า เจ้าหน้าที่ได้เก็บข้อมูลดีเอ็นเอจากเสื้อผ้า รองเท้าของผู้ต้องสงสัยชายชาวต่างชาติ ที่ถูกควบคุมตัวในมณฑลทหารบกที่11(มทบ.11)นำไปเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอที่เก็บได้จากรถตุ๊กตุ๊กรับจ้างและรถแท๊กซี่ที่ไปส่งคนร้ายในวันเกิดเหตุ 

05

ทั้งนี้ ยังได้ตรวจสอบข้อมูลทางโทรศัพท์ย้อนหลังของผู้ต้องสงสัยอย่างละเอียด ส่วนการสอบสวนผู้ต้องสงสัยยังไม่รับสารภาพ และยังไม่สามารถระบุชื่อรวมถึงสัญชาติที่แท้จริงได้ แต่แนวทางการสืบสวนมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่ราชประสงค์อย่างแน่นอน แต่ยังไม่แน่ชัดว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้ทำหน้าที่อะไรคาดว่ามีผู้ร่วมขบวนการอีกจำนวนมากและมีคนไทยเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย

ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า ได้ให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวและข้อมูลอีก 4-5 จุด เพื่อขยายผลหาตัวผู้ร่วมขบวนการแล้ว ส่วนการสอบสวนผู้ต้องหาชายชาวต่างชาติที่ถูกควบคุมตัวยืนยันว่าเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่ราชประสงค์และท่าเรือสาทรอย่างแน่นอน

ส่วนหลักฐานการตรวจค้น ห้องพัก 33 ห้องของอพาร์ตเมนท์ไมมูณา การ์เดนส์ โฮม ถนนราษฎร์อุทิศย่านมีนบุรี เมื่อวานนี้(30 ส.ค.)พบเครื่องมือบัดกรีในห้องพักเลขที่ 9102 และพบโทรศัพท์มือถือพร้อมสายไฟและอุปกรณ์อื่นๆในห้องเลขที่ 9106  เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมด ส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบว่าจะมีความเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดหรือไม่

ล่าสุดมีงานรายว่าชุดสืบสวนกองบังคับการปราบปราม ได้ประสานกับสถานีตำรวจนครบาลมีนบุรี เพื่อให้ติดตามตัวผู้หญิงซึ่งเป็นผู้เช่าห้องเลขที่ 9106 อาคารไมมูณา การ์เด้นโฮม มาสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์หรือไม่ ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ชุดสืบสวนได้ขยายผลจับกุมชาวปาเลสไตน์อีก 4 คน เพื่อนำตัวมาสอบสวนว่าเป็นขบวนการเดียวกันหรือไม่ ด้านสถานฑูตตุรกีประจำประเทศไทย ออกมาระบุว่า ชายต้องสงสัยที่ตำรวจจับกุมตัวได้ ตรวจสอบแล้วไม่ใช่ชาวตุรกีแต่อย่างใด

เรื่องน่าสนใจ