เจ้าอาวาสวัดเลียบ จ.สงขลา เผย พระแจ๊ส บวชได้ ร่างกายและจิตใจเป็นชายเต็มตัว ด้าน พระแจ๊ส ยันบวชตลอดชีวิต เพราะเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาและอยากทดแทนบุญคุณพ่อแม่
หลังจากที่กลายเป็นข่าวช็อกวงการ สำหรับ นายสรวีย์ นัดที หรือ แจ๊ส อายุ 24 ปี มิสทิฟฟานี่ ยูนิเวิร์ส 2009 ตัดสินใจหันหลังให้วงการมายา แล้วหันหน้าปฏิบัติธรรมใต้ร่มกาสาวพัสตร์ตลอดชีวิต โดยเข้าอุปสมบทที่วัดเลียบ อ.เมือง จ.สงขลา แต่ก็ยังคงเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในสังคมว่า เป็นเรื่องที่เหมาะสมหรือไม่ เพราะเป็นสาวประเภท 2 ถึงแม้จะผ่าตัดนำเอาหน้าอกที่ศัลยกรรมเพิ่มออกไปแล้ว และยังไม่ได้แปลงเพศ ตามที่ได้รายงานไปแล้วนั้น
ล่าสุด วานนี้ (13 พฤษภาคม 2556) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังวัดเลียบ เพื่อสอบถามเรื่องราวข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการบวชของพระแจ๊ส โดยพระอตุวาทีภิกขุ เจ้าอาวาสวัดเลียบ ยืนยันว่า พระแจ๊สเข้าพิธีอุปสมบทจริง เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ได้รับฉายาว่า พระมหาวิริโยภิกขุ หรือผู้มีความเพียรยิ่ง ซึ่งการเข้าอุปสมบทดังกล่าวไม่ขัดกับหลักพระพุทธศาสนา เนื่องจากสภาพจิตใจและร่างกายเป็นผู้ชายเต็มตัว มีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะอุปสมบท
ทั้งนี้ หลังพระแจ๊สมาติดต่อขออุปสมบทได้ให้คำขอบวชไปท่องและสามารถท่องได้อย่างขึ้นใจ ที่สำคัญจากการตรวจร่างกายและจิตใจก็เป็นผู้ชายปกติโดยนำซิลิโคนออกจากหน้าอกแล้ว จึงทำพิธีอุปสมบทให้ แต่ตอนอุปสมบท พระแจ๊สยังไม่พร้อมเผยตัวต่อสื่อมวลชน เนื่องจากมีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะศึกษาธรรม ปฏิบัติธรรม และปฏิบัติตามกิจของสงฆ์ ทางวัดจึงขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายอย่ารบกวนพระแจ๊ส เพื่อให้เป็นไปตามเจตนาที่ตั้งไว้
พระอตุวาทีภิกขุ กล่าวต่อไปว่า จากการพูดคุยกับพระแจ๊ส บอกว่า ก่อนตัดสินใจอุปสมบท ได้ไปปฏิบัติธรรมมาแล้ว 2 ปี การเข้าอุปสมบทครั้งนี้ได้ตั้งใจจริงเพื่อทดแทนบุญคุณพ่อแม่ ที่สำคัญมีความตั้งใจที่จะบวชตั้งแต่เด็ก แต่ไม่มีโอกาส และก่อนหน้านี้พ่อของพระแจ๊สล้มป่วย พระแจ๊สก็บนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้ว่าหากพ่อหายก็ขอบวชเพื่อรับใช้พระพุทธ ศาสนา ปรากฏว่าพ่ออาการดีขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ หลังจากชีวิตผ่านอะไรมามาก โดยเฉพาะการใช้ชีวิตเพศที่สาม ซึ่งในบางช่วงของชีวิตนั้น รู้สึกไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง ด้วยความศรัทธาในพระพุทธศาสนาจึงตัดสินใจบวชและจะครองผ้าเหลืองตลอดชีวิต หลังอุปสมบท พระแจ๊ส ก็ปฏิบัติตัวเหมือนพระทั่วไปตามกฎของวัด
และ เมื่อผู้สื่อข่าวได้ขอพบพระแจ๊ส ซึ่งพักรวมกับพระรูปอื่น ๆ ภายในกุฎิ ซึ่งยินดีลงมาพบและพูดคุยด้วยความสำรวมและสงบนิ่ง โดยกล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า ไม่ ต้องการให้เป็นประเด็นทางสังคม ต้องการอยู่อย่างสงบ เหตุที่ตัดสินใจบวชเพราะเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาและทดแทนบุญคุณพ่อแม่ ไม่มีสาเหตุอื่น ๆ จากทางโลกและตั้งใจบวชตลอดชีวิต
ด้านนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า พระธรรมวินัยระบุไว้ชัดเจนว่าการเป็นบัณเฑาะก์หรือกะเทยอย่างชัดเจน ไม่สามารถบวชได้ การที่เจ้าอาวาสอนุญาตให้บวชไปแล้วต้องสึก แต่หากนำซิลิโคนหรือสิ่งแปลกปลอมออกจากร่างกายและสภาพเป็นผู้ชายปกติแล้ว ไม่มีจิตใจกระเดียดไปทางผู้หญิง ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าอาวาสก็สามารถเข้าอุปสมบทได้
ขอบคุณข่าวจาก เรื่องเล่าเช้านี้, กระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดย คุณ Lakornhd Thaitv สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม