ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์

ตร.สืบสวนภาค 4 รวบ “เจ๊เหมียว” เจ้าแม่เงินกู้นอกระบบสุดโหด พร้อมลูกสมุน ตามหมายศาล จ้างวานฆ่าเผาลูกน้องพนักงานเก็บเงิน ใน จ.อุดรธานี รับสารภาพโกรธแค้นที่โดนขโมยเงิน 1.5 ล้านบาท พร้อมพระเครื่องสุดหวง…

EyWwB5WU57MYnKOuXxveQtS9dBrAqMsu63vB1jUr4zqX1W575jqjBF

สืบเนื่องจากกรณี นายนงค์ศักดิ์ สอนนุชาติ อายุ 43 ปี พนักงานเก็บเงินกู้นอกระบบในเขต อ.นิคมน้ำอูน จ.สกลนคร ถูกพบเป็นศพถูกฆ่าเผาอย่างเหี้ยมโหด พร้อมรถจักรยานยนต์ ในบริเวณสวนยางพารา ริมถนนบ้านสมสวัสดิ์-บ้านวังทอง ต.ผาสุก อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี เมื่อเช้าที่ 15 มิถุนายน 58

และในบ่ายวันเดียวกันนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถแกะรอยตามจับกุมนายดำ ดีพรม อายุ 60 ปี ชาว จ.สกลนคร ขณะนอนรักษาแผลไฟไหม้บริเวณใบหน้าและแขน ที่โรงพยาบาลนิคมน้ำอูน โดยนายดำยอมรับสารภาพว่าตนเองเป็นฆาตกร ที่ลงมือฆ่าทุบหัวผู้ตาย ก่อนร่วมกับนางอิสยาห์ ฮัลมาชาด หรือเจ๊เหมียว อายุ 41 ปี นายทุนเงินกู้นอกระบบ และนายอังฆเชตร์ หรือหนุ่ย ภูบุตรตะ อายุ 40 ปี นำศพใส่รถเก๋งไปเผาพร้อมรถจักรยานยนต์ อ้างว่าเป็นพราะแค้นที่ถูกผู้ตายถีบหน้าในวงเหล้า ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 19 มิ.ย.58 พ.ต.อ.ยรรยง เวชโอสถ รอง ผบก.สส.ภ.4 พ.ต.อ.ณัฐนนท์ ประชุม ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.4 พ.ต.ท.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ รอง ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.4 ร่วมกันจับกุม นางอิสยาห์ ฮัลมาชาด อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 10 บ้านห้วยเหล็กไฟ ต.นิคมน้ำอูน อ.นิคมน้ำอูน จ.สกลนคร และนายอังฆเชตร์ หรือหนุ่ย ภูบุตรตะ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 208 หมู่ 13 ต.แร่ อ.พังโคน จ.สกลนคร ตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ จ 155/2558 และ จ 156/255 ลงวันที่ 19 มิถุนายน 58 ในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อนและปิดบังและซ่อนเร้นทำลายศพ” พร้อมกับอายัด รถเก๋งสีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน สอ 4438 กรุงเทพมหานคร ที่บ้านเช่าใน อ.เมืองหนองคาย จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวนที่สำนักงาน สส.1 บก.สส.ภ.4 ถนนศุภกิจจรรยา เขตเทศบาลนครอุดรธานี

NjpUs24nCQKx5e1D7RrlQ6CeeXegwG0O4llnBbVNB3l

นางอิสยาห์ ให้การรับสารภาพอย่างไม่สะทกสะท้านว่า ตนเป็นผู้ว่าจ้างให้นายดำ ฆ่านายนงค์ศักดิ์ และร่วมกันนำศพไปเผาจริง เพราะแค้นที่ผู้ตายงัดบ้านแล้วขโมยเงินไปนับ 1,500,000 บาท รวมทั้งพระเครื่องสุดหวงที่ตนสะสมและได้เก็บไว้ในตู้เซฟภายในบ้าน

โดยนางอิสยาห์ยังเล่าว่า ตนเคยมีสามีเป็นชาวบาห์เรน ต่อมาได้แยกทางกัน จากนั้นได้มีสามีคนใหม่ เป็นทหาร แต่ก็ได้แยกทางกันอีก กระทั่งมีสามีใหม่อีกคน ก่อนจะมาปักหลักทำธุรกิจปล่อยเงินกู้นอกระบบที่ อ.นิคมน้ำอูน จ.สกลนคร โดยมีนายดำ นายอังฆเชตร์ และผู้ตาย ซึ่งเป็นเพื่อนกับพี่ชายตน เป็นพนักงานเก็บเงิน จนไว้ใจให้เดินเข้าออกในบ้านได้อย่างสบาย และรู้ว่าตนเก็บเงินไว้ที่ไหน

โดยก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 สัปดาห์ ตนและลูกน้องทั้งหมดไปดูหมอลำซิ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 1 กม. แต่ตกดึกคืนนั้น ผู้ตายได้หายไป ตนก็ไม่ได้นึกสงสัยอะไร จนกระทั่งหมอลำซิ่งเลิก เมื่อตนกลับมาบ้าน จึงได้พบว่าบ้านถูกงัด และกุญแจตู้เซฟภายในห้องนอนของตน ซึ่งรหัสล็อกเซฟพัง ไม่สามารถล็อกได้ ตนจึงได้นำกุญแจมาล็อกนั้น ถูกตัดเสียหาย เงินภายในตู้เซฟ จำนวน 1.5 ล้านบาท และพระเครื่อง “ยอดขุนพล” กรุลพบุรี ราคา 300,000 บาท ซึ่งตนรักและหวงมาก ได้หายไป ตนไม่ได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ได้สืบหาคนร้ายเอง และสังเกตเห็นว่าผู้ตายพกเงินและใช้เงินวันละ 3-4 หมื่นบาท ทั้งไปเที่ยวร้านอาหารและแจกทิปนักร้องจำนวนมาก ตนจึงปักใจเชื่อว่าคนที่ขโมยเงินและพระเครื่องของตนไปคือนายนงค์ศักดิ์แน่นอน

NjpUs24nCQKx5e1D7RrlQ6CeeXegwGxG7PsDE5j7NNg

ทั้งนี้ ด้วยความแค้น จึงได้วางแผนฆ่า โดยจ้างนายดำฆ่าผู้ตายด้วยวิธีใดก็ได้ ในราคา 2 หมื่นบาท ซึ่งนายดำ ก็ตกลงรับจ้างฆ่า โดยในวันเกิดเหตุ ตนได้โทรศัพท์เรียกผู้ตายมาดื่มเหล้าที่บ้าน พอสบโอกาสนายนงศ์ศักดิ์เผลอ นายดำจึงได้ใช้ท่อนไม้ทุบหัวผู้ตายหลายครั้งจนเสียชีวิต ตนและนายอังฆเชตร์ ได้ช่วยกันนำศพใส่กระโปรงหลังรถเก๋ง สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน สอ 4438 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถของตน และตนยังเป็นคนขับรถนำศพไปเผาที่เขต อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี เพราะนายดำขับรถเกียร์ออโต้ไม่เป็น โดยแวะซื้อน้ำมันเบนซินที่ปั๊มน้ำมันใน อ.วังสามหมอ นำไปราดเผาศพ เสร็จแล้วได้จ่ายเงินค่าจ้าง 2 หมื่นให้นายดำ

นางอิสยาห์ ให้การอีกว่า นายอังฆเชตร์ ได้ขี่รถจักรยานยนต์ติดตามไป ก่อนจะนำรถจักรยานยนต์ไปทิ้งห่างจากจุดเผาศพประมาณ 300 เมตร ซึ่งตนได้สั่งให้นายดำกลับไปเผารถจักรยานยนต์ในวันถัดมา ทว่าขณะนายดำราดน้ำมันเบนซินและจุดไฟเผารถนั้น เกิดพลาด ถูกไฟลวกใบหน้าและแขน ได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาล จากนั้นจึงถูกตำรวจตามจับกุมได้ ส่วนตนได้ขับรถเก๋งหลบหนีไปกับนายอังฆเชตร์ ไปหลบหนีการจับกุมไปที่ จ.หนองคาย กระทั่งมาถูกตำรวจจับกุมได้

“ถึงตอนนี้ตนก็ยังไม่หายแค้นผู้ตาย เพราะเสียดายเงินและพระเครื่องที่ผู้ตายลักไป ตนเชื่อว่าผู้ตายเป็นคนงัดเซฟลักทรัพย์สินตนแน่นอน จึงได้วางแผนฆ่า และตนไม่เคยคิดที่จะมอบตัว และไม่คิดหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน อยู่ในประเทศไทยก็สบายดี แม้ว่าจะต้องหลบๆ ซ่อนๆ ก็ตาม” นางอิสยาห์ พูดอย่างสะใจและไม่สำนึกผิดที่ฆ่านายนงค์ศักดิ์ ด้วยเหตุนี้ ตำรวจจึงควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.วังสามหมอ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เรื่องน่าสนใจ