จากกรณีเกิดเหตุรถ บีเอ็มดับเบิ้ลยู รุ่น 218i สีขาว สภาพใหม่ทะเบียนป้ายแดง ศ-8859 กรุงเทพมหานคร ที่มี นายกิติภูมิ เอี่ยมสุข หรือ เดียร์ อายุ 28 ปี บุตรชาย นายโหน่ง ชะชะช่า ตลกชื่อดัง เป็นคนขับ ชนกับรถเก๋งจนพังยับ ชายหนุ่มคนขับเสียชีวิตคาเบาะที่นั่งคนขับ
ล่าสุด ตลกชื่อดัง โหน่ง ชะชะช่า ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ พร้อมเปิดเผยว่า ลูกชายของตน เพิ่งกลับจากร้านบะหมี่ โหน่ง ชะชะช่า สาขา จ.นครนายก และกำลังจะกลับบ้านพักย่านคลอง 2 ธัญบุรี โดยขับรถมาคนเดียวปกติเหมือนเช่นทุกวัน
ทั้งนี้ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยและจะเดินทางไปร่วมงานศพในภายหลังจากดูอาการของลูกชาย ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดแต่อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โชคดีที่ลูกชายตนไม่เป็นอะไรมาก
โดยอุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 20 มี.ค. พ.ต.ท.บุญเรือง พันธนู สารวัตร(สอบสวน) สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งเกิดเหตุรถเก๋ง ยี่ห้อ BMW ชนกับรถเก๋ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ แลนเซอร์ มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต บริเวณจุดกลับรถคลองเก้า ถนนรังสิต-นครนายก ขาเข้ารังสิต หมู่ 2 ตำบลลำผักกูด อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยหน่วยกู้ชีพ รพ.ธัญบุรี อาสาสมัครมูลนิธิปอเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อ บีเอ็มดับเบิ้ลยู รุ่น 218i สีขาว สภาพใหม่ทะเบียนป้ายแดง ศ-8859 กรุงเทพมหานคร ได้ชนกับรถเก๋งมิตซูบิชิ แลนเซอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน กจ-5946 ปทุมธานี เข้ากลางคันสภาพพังรถยับเยินทั้งสองคัน จากการตรวจสอบภายในรถเก๋งมิตซูบิชิ พบผู้เสียชีวิตติดภายในรถ 1 ราย เป็นคนขับทราบชื่อ นายพรพิชิต อายุ 47 ปี สภาพศพคอหักออกมานอกประตูรถ และมีบาดแผลหลายแห่ง เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ใช้เครื่องตัดถ่างนำร่างออกมาจากรถ โดยพบว่านายพรพิชิต เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ
ส่วนภายในรถเก๋งบีเอ็ม พบผู้บาดเจ็บ ชื่อ นายกิติภูมิ เอี่ยมสุข หรือ เดียร์ อายุ 28 ปี ทราบภายหลังว่าเป็นเป็นลูกชายคนโตของ ตลกชื่อดัง “โหน่ง ชะชะช่า” ได้รับบาดเจ็บอาการไม่สาหัส เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กู้ชีพรพ.ธัญบุรี ได้นำตัวส่งไปรักษาที่ รพ.เปาโลรังสิต
พ.ต.ท. บุญเรือง เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการสอบสวนทราบว่า รถเก๋งบีเอ็มของ นายกิติภูมิ “ลูกชายโหน่ง ชะชะช่า” ได้ขับมาจาก จ.นครนายก เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้านพักที่รังสิต ส่วน รถของนายพรพิชิต กำลังจะเลี้ยวรถเพื่อกลับรถโดยออกมากะทันหัน จึงทำให้เกิดการชนกันขึ้นอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตามได้ตั้งข้อหาประมาทร่วม กับผู้ขับขี่รถทั้งสองคันไว้ก่อน ทั้งจะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและต้องรอผลการตรวจชันสูตรจากแพทย์ก่อนว่า ผู้ตายกับผู้บาดเจ็บมีปริมาณแอลกอฮอล์ ในร่างกายหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากต้องรอสอบปากคำผู้บาดเจ็บก่อน ส่วนความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้บันทึกภาพและเก็บหลักฐานต่างๆ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายต่อไป ส่วนผู้เสียชีวิตมอบให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง นำส่งชันสูตรยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ (ศูนย์รังสิต)