“แผลในปาก” เป็นสิ่งที่พบได้ไม่น้อยในเด็ก มักพบพร้อมกับการติดเชื้อไวรัสหรือไข้หวัด เด็กมักงอแง ไม่อยากกินอาหาร ซึ่งบางครั้งทำให้พ่อแม่เข้าใจผิดว่าเด็กเจ็บคอหรือคออักเสบ และหากตรวจในช่องปากจะพบแผล ซึ่งอาจอยู่ที่ริมฝีปาก กระพุ้งแก้ม เพดานปาก หรือเหงือก วันนี้ Dodeden.com จะพาทุกท่าน และคุณแม่ลูกอ่อนไปรู้จักกับโรคนี้กันค่ะ บางทีการที่ลูกน้อยของคุณร้องงอแง และไม่ทานอาหาร อาจจะเป็นเพราะสาเหตุนี้ก็เป็นได้นะคะ!!
แผลในปากเด็กเกิดได้จากหลายสาเหตุ ขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อโรคและอายุของเด็ก ได้แก่ 1. โรคเชื้อราในช่องปาก หรือ “ซาง” พบได้ในเด็กอายุ 1 ขวบแรก โรคนี้จะมีลักษณะเป็นปื้นขาวและแผลที่กระพุ้งแก้มร่วมด้วย ซึ่งจะทำให้เด็กเจ็บและดื่มนมได้น้อยลง แต่โรคนี้ต้องแยกให้ออกจากอาการลิ้นขาว ซึ่งพบได้ในเด็กปกติทั่วไป 2. แผลร้อนใน ในช่องปาก เกิดกับเด็กทุกวัย มักเกิดจากการกระแทกของอาหารหรือขนแปรงสีฟันที่แข็ง หรือติดเชื้อไวรัส 3. โรคติดเชื้อบางอย่าง โดยเฉพาะที่มีสาเหตุจากเชื้อไวรัส เช่น โรคหัด โรคเริม และโรคมือเท้าปาก 4 .ลิ้นแผนที่ ในเด็กปกติบางคนอาจพบปื้นขนาดใหญ่ ลักษณะคล้ายแผลที่ลิ้น ซึ่งมีความสัมพันธ์กับโรคภูมิแพ้ ปื้นอาจจะนูนขึ้นเวลาที่เด็กไม่สบาย ทำให้พ่อแม่คิดว่าเด็กเจ็บมาก แต่ส่วนใหญ่แล้ว เด็กจะไม่เจ็บหรือเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แผลในปากมักหายได้เองภายใน 3-7 วัน ลิ้นแผนที่จะดีขึ้นเมื่อเด็กหายป่วย การป้ายยาเจนเชียนไวโอเลตช่วยให้อาการทุเลาและทำให้หายเร็วขึ้น ทั้งนี้ แผลในปากส่วนใหญ่มักทำให้เจ็บ การใช้ยาทาเฉพาะที่อาจทำได้ไม่สะดวก และช่วยอาการทุเลาเพียงชั่วคราว จึงแนะนำให้ดื่มน้ำและนมเย็น อมน้ำแข็ง หรือกินไอศกรีม เพื่อช่วยให้ช่องปากชาและลดความเจ็บป่วย สามารถกินอาหารและดื่มน้ำได้มากขึ้น
สำหรับอาการที่ควรปรึกษาแพทย์ คือ โรคเชื้อราในช่องปากที่เป็นซ้ำหลายครั้ง หรือหากพบโรคในเด็กโต เจ็บแผลรุนแรง มีเลือดออก หรือแผลไม่หายภายใน 1 สัปดาห์ เด็กดื่มน้ำได้ไม่เพียงพอ หรือมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ไข้สูง อ่อนเพลียมาก หรือปัสสาวะลดลง
เชื้อราในช่องปากป้องกันได้โดยรักษาความสะอาดช่องปาก หากเป็นเด็กที่เลี้ยงดูด้วยนมแม่ ไม่ควรดื่มน้ำเพื่อล้างคราบนมออก เนื่องจากน้ำนมแม่มีสารต้านการเจริญเติบโตของเชื้อรา ส่วนเด็กที่ดื่มนมผสมต้องดื่มน้ำตามเพื่อล้างคราบนมออก หลีกเลี่ยงการสัมผัสเชื้อไวรัส เช่น ไปโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น เดินเล่นในสถานที่มีผู้คนแออัด หรือส่งเด็กเข้าสถานรับเลี้ยงเด็ก
